ศรีสะเกษ-ชาวบ้านผวาน้ำท่วมเร่งกำจัดวัชพืชกีดขวางทางน้ำไหล
ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
น้ำล้น 2 เขื่อนใหญ่ชายแดนเขมรนาข้าวกำลังออกรวงกว่า 3,000 ไร่จมใต้น้่ำ ขณะที่ชาวบ้านผวาน้ำท่วมเร่งกำจัดวัชพืชกีดขวางทางน้ำไหล
เมื่อวันที่ 18 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขื่อนห้วยติ๊กชู ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และเขื่อนห้วยศาลา ต.โคกตาล ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย – กัมพูชา ปรากฏว่า จากการที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องมานานกว่า 10 วัน ได้ส่งผลให้มีมวลน้ำป่าไหลทะลักลงมาจากเทือกเขาพนมดงรักลงสู่เขื่อนทั้ง 2 แห่งจำนวนมาก และทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ส่งผลให้น้ำไหลล้นสปิลเวย์ลงไปท่วมไร่นาของชาวบ้านตามเส้นทางที่น้ำไหลผ่าน โดยที่บ้านนกยูง ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ น้ำป่าได้ท่วมถนนภายในหมู่บ้านและน้ำได้ไหลเชี่ยวกรากผ่านหน้า ร.ร.บ้านนกยูง ( อ.ส.พ.ป.30)ลงไปสู่ไร่นาของชาวบ้าน ส่วนที่บ้านกระโดน ต.คะเคียนราม อ.ภูสิงห์ น้ำได้ไหลทะลักเข้าไปท่วมไร่นาของชาวบ้านที่ต้นข้าวกำลังออกรวง ชาวนาได้แต่นั่งมองนาข้าวของตนที่จมอยู่ใต้น้ำโดยที่ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากว่ามีมวลน้ำไหลทะลักท่วมพื้นที่นาเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ นายในย แพงตา นายก อบต.ตะเคียนราม ได้นำเอารถแบ๊คโฮมาร่วมกับชาวบ้านช่วยกันกำจัดวัชพืชออกจากทางน้ำไหล เพื่อให้น้ำในลำห้วยติ๊กชูไหลได้สะดวก ส่วนบ้านสระรุน หมู่ 5 ต.ห้วยใต้ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ น้ำป่าได้ไหลเอ่อเข้าไปท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านเป็นระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร และน้ำได้ท่วมไร่นาของชาวบ้านประมาณ 30 ไร่ ฝ่ายปกครอง อ.ขุขันธ์ ได้นำเอารถแบ๊คโฮมาขุดลอกคลองเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน
นายในย แพงตา นายก อบต.ตะเคียนราม กล่าวว่า น้ำป่าได้ไหลลงมาจากเขื่อนห้วยติ๊กชูลงมาตามลำห้วยติ๊กชู มวลน้ำจำนวนมากได้ไหลเอ่อเข้าไปท่วมไร่นาของชาวบ้านตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ของคืนวันที่ 17 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา มีไร่นาของชาวบ้านที่ข้าวกำลังออกรวงในเขต ต.ตะเคียนรามโดนน้ำท่วมไปจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ไร่ ตนได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันขจัดวัชพืชเพื่อต้องการเปิดทางน้ำในลำห้วยติ๊กชูที่ไหลผ่านพื้นที่ ต.คะเคียนราม เพื่อจะได้ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมไร่นาของชาวบ้านให้ลดลงโดยด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นข้าวเสียหาย
ทางด้าน นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีความจุเกินความจุ 100% มีทั้งสิ้น 10 แห่งด้วยกัน คือ อ.ภูสิงห์ 2 แห่งได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กซู และอ่างเก็บน้ำห้วยศาลา อ.ขุนหาญ 3 แห่งคือ อ่างฯห้วยทา อ่างฯห้วยตะแบง อ่างฯหนองสิ อ.กันทรลักษ์ 3 แห่งคือ อ่างฯห้วยตามาย อ่างฯห้วยด่านไอ อ่างฯห้วยขนุน อ.ราษีไศล 1 แห่ง คือ อ่างห้วยน้ำเค็ม อ.เมืองฯ 1 แห่งคือ อ่างฯห้วยน้ำคำ ปริมาณน้ำพื้นที่ตอนบนด้าน อ.ภูสิงห์ อ.ขุนหาญ อ.กันทรลักษ์ มีปริมาณมาก แต่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปริมาณฝนตกลดลง ส่วนลำห้วยสำราญ มวลน้ำจาก อ.ภูสิงห์ แนวโน้มลดลง และคาดว่าน้ำจะไหลเข้าบางพื้นที่ของ อ.ขุขันธ์ วังหิน อุทุมพรพิสัย และเมืองฯ ในระยะต่อไป นายบุญประสงศ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่จุดวัดน้ำ M9 ที่สะพานขาว อ.เมืองศรีสะเกษ คาดว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้น แต่ยังรองรับมวลน้ำได้อีก ระดับน้ำวันนี้ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.54 เมตร ยังไหลลงลำน้ำมูลได้ และเขื่อนหัวนาได้แขวนบานประตูทั้ง 14 บาน ระบายน้ำได้เต็มที่ ขณะที่ลำห้วยขะยูง มีระดับเพิ่มขึ้น จากมวลน้ำที่ไหลมาจาก พื้นที่ อ.กันทรลักษ์ ไหลลงไปที่ อ.เบญจลักษ์ อ.โนนคูณ อ.กันทรารมย์ ลงสู่แม่น้ำมูลต่อไป ส่วนลำห้วยทา มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่อ่างฯต้นน้ำจากอ.ขุนหาญ ระดับน้ำเริ่มลดลง มวลน้ำไหลเข้าพื้นที่บางส่วนของ อ. ไพรบึง อ.น้ำเกลี้ยงอ.พยุห์ และอ.กันทรารมย์ จุดเฝ้าระวังพิเศษอยู่ที่ พื้นที่ อ.กันทรารมย์ อาจได้รับผลกระทบจากลำน้ำมูลและลำน้ำชีที่ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวสารสถานการณ์ของน้ำอย่างใกล้ชิดด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/