ประจวบคีรีขันธ์-เปิดโครงการคนละครึ่งตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย

ภาพ/ข่าว:ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ 

          ธกส.ประจวบเปิดโครงการคนละครึ่งตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย โอกาสครบรอบ 54 ปีวันสถาปนาธนาคาร ธกส.สาขาประจวบ

            วันที่ 2 พ.ย.63 นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางสาวเกศริน ภัทรเปรมเจริญ คลังจังหวัดประจวบ และ นางกนกกรณ์ มูซอ ผู้จัดการอาวุโสธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกัน เปิดตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย ส่งตรงสู่ผู้บริโภค(ธ.ก.ส.Go Green) โครงการคนละครึ่ง ตามนโยบายของรัฐบาล ที่บริเวณด้านหน้าอาคาร สำนักงาน ธ.ก.ส.สาขาประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 54 ปี วันคล้ายวันสถาปนาธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรได้นำสินค้าที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค โครงการครึ่งไร่คลายจน ชุมชนอุดมสุข ชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยเปิดจำหน่ายสินค้าทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 08.00 – 12.00 น. ณ ธ.ก.ส.สาขาประจวบคีรีขันธ์

           ทั้งนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ได้ก่อตั้งครบ 54 ปี มีวิสัยทัศน์ “เป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน มุ่งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชนบท”นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย “ตลาดเกษตรปลอดภัย ธ.ก.ส. Go Green” เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ที่สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 วัตถุประสงค์ เพื่อให้เกษตรกรลูกค้าธนาคารเห็นถึงความสำคัญ การทำเกษตรอินทรีย์ ลดต้นทุนการผลิต เน้นกระบวนการผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับเกษตรกรลูกค้า ตลอดจนส่งเสริมผู้ซื้อให้เห็นความสำคัญในการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ธนาคารจึงได้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายภาคเอกชน ในการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย หรือเกษตรอินทรีย์ เช่น ปั้ม ปตท. ชะอำ (ฝั่งเข้ากรุงเทพฯ) จำหน่ายวันเสาร์-อาทิตย์ ศูนย์ OTOP หัวหิน จำหน่ายทุกวันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ปั๊ม ปตท.ช้างเผือกปิโตรเลียม เกาะยายฉิม จำหน่ายทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และกระจายไปในพื้นที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขารวม 11 แห่งทั่วทั้งจังหวัด

            ด้าน นางกนกกรณ์ มูซอ ผู้จัดการอาวุโสธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และสนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ทางธนาคารกรุงไทยสามารถเปิดรับสมัครได้จนกว่าจะหมดโครงการ โดยเงื่อนไขจะต้องเป็นร้านค้ารายย่อยทั่วไป เน้นเป็นสินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภค ยกเว้นร้านค้าจำหน่ายประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ ร้านจำหน่ายลอตเตอรี่ และร้านบริการ ร้านขนาดใหญ่ที่เป็นแฟรนไชส์ เช่น ร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านสะดวกซื้อต่างๆ ซึ่งวิธีการสมัครไม่ยุ่งยากเพียงมีบัญชีกับทางธนาคารกรุงไทย และมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถรองรับ QR Code และ SMS ได้ โดยเข้าไปสมัครลงทะเบียนใน www.คนละครึ่ง.com หลังจากนั้นทางธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปติดต่อตรวจสอบร้านค้าที่สมัครว่ามีหน้าร้านจริงหรือไม่ และมีคุณสมบัติครบถ้วนเพื่อ register ยืนยันตัวตนร้านค้าที่สมัครภายในระยะเวลา 3 วัน ร้านค้าก็สามารถที่จะใช้โครงการคนละครึ่งได้ทันที และอีกหนึ่งช่องทางขณะนี้รัฐบาลได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพิ่มช่องทางให้กับลูกค้าได้สมัครง่ายขึ้น โดยการรวมตัวแล้วให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เซ็นยืนยันรับรองตัวตนการมีร้านค้า การสมัครก็จะง่ายขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญร้านค้าจะต้องมีบัญชีกับธนาคารกรุงไทยจะทำให้การรับโอนเงินสะดวกและง่ายขึ้น ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดประจวบมียอดร้านค้าที่ให้ความสนใจสมัครมากกว่า 3,000 ร้านค้าแล้ว และมียอดสมัครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน เนื่องจากไม่ได้มีการจำกัดจำนวนร้านค้า และยังสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/