ประจวบคีรีขันธ์-รอง ฉก.จงอางศึกติดไฟส่องสว่างหลังพบพม่าขนกระท่อม

ประจวบคีรีขันธ์-รอง ฉก.จงอางศึกติดไฟส่องสว่างหลังพบพม่าขนกระท่อม

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ 

        รอง ฉก.จงอางศึกทุ่มงบส่วนตัวติดไฟส่องสว่างเพิ่ม 4 จุด หลังพบพม่าขนกระท่อมผงบดซุกชายแดนไทย 4 กระสอบ

          วันที่ 24 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีชาวบ้านเข้าป่าไปตัดใบกฐินเพื่อมาเลี้ยงแพะ บริเวณแนวป่าชายแดนไทย-เมียนมาร์ ใกล้กลับช่องทางธรรมชาติด้านทิศใต้ของจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร หมู่ที่ 6 ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้วไปพบยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พืชกระท่อมผงบดละเอียด จำนวน 4 กระสอบ น้ำหนักรวม 111 กิโลกรัม แอบซุกอยู่บริเวณชายป่าแนวเทือกเขาตะนาวศรี ข้างอ่างเก็บน้ำหินกอง เมื่อวันที่ 20 ก.ย.63 ที่ผ่านมานั้น

          ล่าสุดวันนี้ พันเอก ธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ได้ใช้เงินงบประมาณส่วนตัว จำนวน กว่า 7200 บาท ซื้อไฟสปอร์ตไลท์ LED และสัญญาณกันขโมย จำนวน 4 ชุด แล้วนำกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหารในสังกัดร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ร่วมกันทำการติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์ LED ขนาด 200 วัตต์ ราคา 1800 บาท เพิ่มเติม จำนวน 4 จุด เพื่อส่องสว่างบริเวณช่องทางธรรมชาติที่ชาวเมียนมาร์นิยมใช้เป็นเส้นทางหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และกลุ่มขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ตชด.และทหาร ผู้ปฏิบัติงานที่ไปซุ่มเฝ้าตรวจจับตามช่องทางธรรมชาติ สามารถมองเห็นผู้กระทำผิดได้อย่างชัดเจน และมีความปลอดภัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย 1.ช่องทางธรรมชาติช่องวังเป้า หมู่ 12 ตำบลอ่าวน้อย 2.ช่องทางชุมนุมมะละกอ ตำบลเกาะหลัก 3.ช่องทางธรรมชาติบ้านหุบผึ้ง หมู่ 5 ตำบลห้วยทราย และ 4.ช่องทางธรรมชาติบ้านสองแกลลอน ตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบ

            พันเอก ธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เปิดเผยว่า การทำงานของหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เป็นการปฏิบัติงานตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และกองทัพบก ได้มอบหมายให้กองกำลังสุรสีห์เข้าดำเนินการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ร่วมกันสกัดกั้นการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย และยาเสพติด ซึ่งอาจจะนำเชื้อ covid19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ โดยการปิดกั้นรั้วลวดหนามบริเวณตามช่องทางธรรมชาติแนวชายแดน ซึ่งได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์มาจากผู้ว่าราชการจังหวัด และกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมกับ ตชด. ชรบ.เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอุทยาน ร่วมกันวางแนวรั้วลวดหนาม ซึ่งในวันนี้ทางหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ได้นำเงินส่วนตัวมาจัดซื้อไฟสปอร์ตไลท์ LED พลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งเพิ่มเติมอีกจำนวน 4 จุด ชุดละ 1,800 บาท เพื่อเพิ่มแสงสว่าง และเพิ่มความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้สามารถมองเห็นผู้กระทำผิดได้อย่างชัดเจนในระยะไกล 20-30 เมตร นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนสุนัขดมกลิ่นจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 เข้ามาสนับสนุนเพื่อดมกลิ่นขณะเฝ้าตรวจตามช่องทางธรรมชาติ และเดินลาดตระเวนตามจุดต่างๆ เนื่องจากสุนัขมีประสาทสัมผัสจมูกและหูที่ไวกว่ามนุษย์ ซึ่งเบื้องต้นในที่ประชุมร่วมกันได้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบ จัดสรรงบประมาณซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการส่องสว่างสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ให้ครอบคลุมในอีกหลายจุด ซึ่งการปิดช่องทางธรรมชาติโดยการกั้นลวดหนาม และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆนั้นไม่สามารถป้องกันได้ 100% ทั้งนี้ทั้งนั้นบุคคลต่างด้าวจะลักลอบหลบหนีเข้าเมืองไม่ได้หากไม่มีคนไทยรู้เห็นเป็นใจนำพาหลบหนี จึงอยากให้ผู้ที่กระทำผิดเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก อย่าเห็นแก่ตัวกับเงินเพียงเล็กน้อย และสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับประเทศชาติ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!