สระบุรี-ดินทรุด กุฏิพระโค่น 5 หลัง

สระบุรี-ดินทรุด กุฏิพระโค่น 5 หลัง

ภาพ/ข่าว:สมยศ พิมมะศร

คลองแม่น้ำป่าสักท่วม น้ำลด ดินสไลด์ตลิ่งพัง กุฏิพระโคล่น 5 หลัง พระบาดเจ็บ 1

          วันที่ 14 ต.ค.64 จากกรณีที่มีภัยพิบัติแม่น้ำป่าสักเอ่อท่วมล้นไหลผ่าน อ.แก่งคอย อ.เฉลิมพระเกียรติ เข้าสู่ในตัวเมืองจังหวัดสระบุรี ตลอดทั้งแนว 2 ฝั่ง นานกว่า 10 วัน จนในขณะนี้น้ำได้ลดลงอยู่ในสภาพปกติแล้ว แต่ทำให้เกิดดินทรุด น้ำเซาะตลิ่ง บ้านเรือนถล่ม ชาวบ้านได้รับความเสียหาย หลายพื้นที่ในตัวเมืองสระบุรี เมื่อเวลา 12.30 น. ศูนย์กู้ภัยสว่างสระบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือว่ามี ตลิ่งแม่น้ำป่าสักน้ำเซาะ ดินทรุด ทำให้กุฏิพระวัดบ้านกอก ถล่มตกลงคลองแม่น้ำป่าสัก จำนวน 5 หลัง ได้รับความเสียหาย อยู่ที่ หมู่ 6 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจึงได้นำกำลังไปช่วยจำนวนหนึ่ง
พบ พระภิกษุ ตกอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก และกุฏิล่วงลงไป 2-3 หลัง จึงได้รีบลงไปช่วยพร้อมกับพระ ได้นำพระที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นมา มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย หัวแตก จึงได้รีบนำส่งรพ.สระบุรี ทราบชื่อ หลวงพ่อดี อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นพระอาพาธ เดินไม่ค่อยได้ ขณะนั้นกุฏิที่เหลือได้ถล่มล่วงลงไปอีก 2 หลัง ต่อหน้าต่อตา ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน มืด ประกอบกับน้ำยังไหลเซาะตลิ่งอยู่ตลอด ต้องรอให้กระแสน้ำหยุดนิ่งอยู่กับที่ก่อน โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
          เบื้องต้นทราบว่า วัดบ้านกอกอยู่ติดกับริมแม่น้ำป่าสัก และสร้างกุฏิเป็นหลังๆ จำนวน 5 หลัง เป็นที่พักของพระ ห่างจากแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นพื้นที่เรียบสูงประมาณ 20 เมตร ก่อนเกิดเหตุ พระไพรศาล อายุ 53 ปี (พระลูกวัด) เล่าว่า ตื่นมาเวลาประมาณ 3 ทุ่ม เห็นต้นไม้มันเอนลงไปริมทางนู้น ดินก็แยกประปามันแตก ดึงท่อประปาขาด พอปิดประปา จึงได้บอกอาจารย์ให้ลงมาดู อาตมานั่งดื่มกาแฟ ไม่ไว้วางใจ จึงได้พากันย้ายมานอนตรงหน้าห้องเก็บของ รู้ตัวเหมือนกันว่ามันไม่น่าจะอยู่ เพราะเสียงดินมันลั่นดังเปี๊ยะๆเรื่อยๆ และดึงต้นไม้โคล่นลง กุฏิโคล่นลงไปอีก 4-5 หลัง เกิดเหตุประมาณ 23.40 น. แต่ลงตอน 12.10 น. ส่วนหลวงพ่อดี อายุ 75 ปี อาพาสเดินไม่ได้ จะไปย้ายมาตอนมันยังไม่ลง อาจารย์ก็เลยเข้าไปนอน เพราะคิดว่ามันยังไม่ลง เพราะตอนเช้าจะย้ายท่าน แต่ไม่ทันแล้ว ท่านหัวแตก มีรอยถลอกตามร่างกาย ไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะรู้ตัวก่อนแล้ว
          ส่วน พระอธิการชัยณรงค์ อินทวรรณโณ อายุ 56 ปี(เจ้าอาวาสวัดบ้านกอก) เล่าว่า ตอนเกิดอาตมาอยู่ในกฏิได้ยินเสียงดัง กิ๊กๆ นึกว่าเสียงอะไรมันร้อง ก็เลยออกมาดู ได้ยินเสียงกุฏิหลังริมโคล่นลงไป พอกุฏิลงไป อาตมาก็กระโดดออกจากกุฏิ พอลงมาปุ๊บ กุฏิก็ได้ล่วงลงไปเลย ไหลตามกันไปหมด คิดว่าน้ำมันยุบลงเยอะ และดินมันแตกแยก ส่วนพระที่นำไปส่งโรงบาล ได้ลงไปพร้อมกุฏิ พระอาพาสเดินไม่ค่อยได้ จึงได้ไปตัดไฟ และพระก็ลงไปช่วยกันนำตัวหลวงพ่อดีขึ้นมาจากน้ำ อาตมาไม่กล้าลงไปเพราะดินมันพัง เพราะกุฏิมันไล่ตกลงไปหมดเลย 5 หลัง มีพระทั้งหมด 9 รูป
          ทางด้าน นาย จุลินกรณ์ แสงหล้า อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี เล่าว่า ตนมาจอดรถอยู่ตรงนี้ ส่วนพระอยู่ตรงนู้นลึกๆ กำลังจะวิ่งไปช่วยพระพอดีเลย กำลังจะเอาพระขึ้น มันก็ถล่มเลย ตนจึงได้วิ่งขึ้นมานี่ ตนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เห็นเหตุการณ์ตอนถล่ม ทั้งหมด เพราะกำลังจะนำเปลไปใส่พระที่บาดเจ็บ พระที่บาดเจ็ดตนเป็นคนลงไปช่วย พระท่านอยู่ตรงตลิ่งพอดี ตนวิ่งลงไป กุฎิที่ท่านอยู่ก็ล่วงรถไปแล้ว และพระก็กระโดดมาอยู่ตรงนั้นพอดี ท่านมีรอยถลอกตามร่างกาย หัวแตก ตอนนั้นล่วงไป 2 กฎิแล้ว ส่วนอันนี้กำลังจะล่วง เพราะรถตนก็มาจอดอยู่ตรงนี้พอดี ต้องถอยรถออกเพราะกุฎินี้ล่วงไปแล้ว ไม่อย่างนั้นของเราก็จะล่วงด้วย ตอนมาถึงรถจอดอยู่ตรงนี้พอดี ความรู้สึกตนเหมือนกำลังวิ่งหนีอะไรสักอย่าง เสียงถล่มแรง ทั้งพระอยู่บนเปล ต้นไม้ล่วงลงไปเยอะอยู่เหมือนกัน ตนได้วิ่งสวนขึ้นมาพอดี

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!