สระบุรี-แข่งขันตำส้มตำลีลา สะบัดเอว แซ้บ แซ่บ
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
สีสัน การแข่งขันตำส้มตำลีลา สะบัดเอว แซ้บ แซ่บ ลีลาการตำส้มตำ หรือรสชาติจะแซ่บกว่ากัน ไปดู
วันที่ 27 มกราคม 2563 ณ. หน้าลานที่ว่าการอำเภอสระบุรี นางอังคณา ชิตตะติดติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในการเปิดงาน มหกรรมอาหาร ครั้งที่ 9 ซึ่งจัดโดย เทศบาลเมืองสระบุรี โดย ดร. ภาณุพงษ์ ทิพยเศวต นายกเทศบาลเมืองสระบุรี ในการจัดครั้งนี้เป็นการรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายในจังหวัดสระบุรี รณรงค์ส่งเสริมการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ทั้งความสะอาด และรสชาติ และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านอาหารอร่อย ดีมีคุณภาพ
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ขาดไม่ได้ก็คือการแข่งขันตำสัมตำ ลีลา และ ประกวดส้มตำลีลาสะบัดเอว แซ้บ แซ่บ รูปแบบการประกวดยังส่งเสริมให้ผู้เข้าแข่งขันแต่งกายแบบพื้นเมือง และฟรีสไตร์ นอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่คู่คนท้องถิ่นอีสานที่มาอาศัยอยู่ในจังหวัดสะบุรี แต่ละทีมก็ใส่ความคิดสร้างสรรค์ แต่งตัว คิดท่าเต้น ลีลาการตำแบบจัดเต็ม ดูเผิน ๆ เหมือนประกวดการแสดงมากกว่าการแข่งตำส้มตำ แต่ก็สมชื่อการประกวด คือ ส้มตำลีลาสะบัดเอว แซ้บ แซ่บ นอนกลิ้งนอนหงาย เป็นที่สนุกและเรียกเสียงรอยยิ้มแก่ผู้เข้ามาเที่ยวงาน ในครั้งนี้
มีทีมที่เข้าร่วมประกวดทั้งหมด 11 ทีม แต่ละทีมต่างมีทีเด็ด ออกลีลาการตำส้มตำอย่างเต็มที่ เรียกเสียงหัวเราะ มอบความสุขให้กับผู้ชม สร้างสีสัน ความสนุกสนานและความบันเทิงให้ผู้เข้าชมงานกันอย่างคึกคัก ก่อนที่จะเสิร์ฟส้มตำให้กรรมการได้ชิมเพื่อตัดสินคะแนน ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร แต่ผลออกมา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมรองชนะเลิศอันที่ 2 ได้แก่ ทีมอาชีวะสระบุรี รับเงินรางวัล 500 บาท รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ทีม จากวิทยาลัยสารพัดช่างสระบุรี รับเงิน 1000 บาท ส่วนรางวัลชนะเลิศได้แก่ ทีมจากโรงเรียนอนุบาลเมืองสระบุรี หรือเรียกทีมนี้ว่า ทีมสาว 300 ปี เพราะผู้แข่งขันเป็นคุณครู ซึ่งมีอายุเฉลี่ย อายุ ท่านละ 50 ปี ขึ้นรวม 6 คน เป็น 300 ปี พอดี รับเงิน 2000 บาท สำหรับรางวัลที่ได้จากคณะกรรมการปรากฏว่าเป็นส้มตำไทย รสชาติเผ็ด หวาน และทีมสำคัญ พวกมะละกอ พริก เครื่องปรุง นั้นปลูกเองที่โรงเรียน ทั้งสิ้น คณะกรรมการเห็นใจเลยให้ชนะเลิศในครั้งนี้ งานนี้จัดขึ้นเพื่อสืบสานศิลปวัฒนธรรมอาหาร เพราะส้มตำเป็นอาหารประจำของคนชาวไทยไปซะแล้ว และยังเป็นอาหารประจำชาติที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/