เพชรบุรี-ยกฟ้อง คดีถูกกล่าวหาร่วมกันใช้พยานหลักฐานอันเป็นเท็จ

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร

                        ศาลจังหวัดเพชรบุรี พิพากษายกฟ้องคดีที่บริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด ยื่นฟ้อง นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ พร้อมพวกรวม 38 คน ฐานความผิด ร่วมกันใช้พยานหลักฐานอันเป็นเท็จ อันอาจเป็นเหตุให้ศาลปกครองเพชรบุรี รับฟ้องทางบริษัทฯ จนอาจเป็นเหตุให้ใบอนุญาตที่เทศบาลตำบลท่าแลงออกให้ถูกเพิกถอน

                               วันนี้ 30 ม.ค.2562 นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพชรบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด ได้ยื่นฟ้องตนเองกับชาวบ้านตำบลท่าแลงอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ในคดีหมายเลขดำที่ อ451/2562 ระหว่าง บริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด โจทย์ กับนางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ กับพวกรวม 38 คน ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้มีคำพิพากษา ให้ยกฟ้อง เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2563 แล้ว

                               คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ พร้อมกับราษฏรชาวตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี รวม 38 คน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพชรบุรี ให้เพิกถอนใบอนุญาตที่นายสงวน จิตต์พุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ผู้ถูกฟ้องที่ 1 กับเทศบาลตำบลท่าแลง ผู้ถูกฟ้องที่ 2 ออกให้ บริษัทดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาศาลปกครองเพชรบุรีมีคำสั่งรับฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ส.4/2561 และกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในชั้นต้นไว้ ต่อมาได้มีคำสั่งเรียก บริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด เข้าเป็นผู้ร้องสอด ให้เรียก ผู้ถูกฟ้องที่ 3 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา
                             บริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด จึงถือเป็นเหตุในการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2562 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ451/2562 กล่าวอ้างว่า โจทย์ได้รับความเสียหายจากจำเลยทั้ง 38 คน ด้วยการแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี ทำให้ศาลปกครองรับฟ้องและอาจมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้ อันเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยโจทก์ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อพนักงานสอบสวน เพราะเนื่องจากประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับจำเลยที่ 1 ถึง จำเลยที่ 38 ด้วยตนเอง
หลังศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่ง ยกฟ้องแล้ว นางสาวสุมล เผยว่า ต้องดูว่าโจทก์จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ หากมีการยื่นอุทธรณ์ ศาลจะมีคำสั่งอย่างไรต่อไป ซึ่งอันที่จริงในเรื่องนี้ ตนเองและชาวบ้านในตำบลท่าแลงไม่ได้ฟ้องบริษัทฯ ด้วยซ้ำ ต้องการยื่นฟ้องนายกเทศบาลตำบลท่าแลงและเทศบาลตำบลท่าแลง ที่ออกใบอนุญาตซึ่งเชื่อว่าโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย เนื่องจากเป็นเรื่องของการออกคำสั่ง/อนุญาต ที่เป็นคดีทางปกครอง เพราะชาวบ้านได้รับผลกระทบ แต่ศาลปกครองท่านมีความเป็นธรรม เห็นว่า บริษัทฯเป็นผู้มีส่วนได้เสียและอาจมีผลกระทบจากการฟ้องดังกล่าว จึงมีคำสั่งเรียกบริษัทฯ เข้ามาเป็นผู้ร้องสอดเพื่อจะได้แสดงพยานและหลักฐานปกป้องตนเอง แต่กลับกลายเป็นเหตุให้มาฟ้องตนเองพร้อมกับชาวบ้านรวม 38 คน ซึ่งเป็นการฟ้องตรง หากศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งรับฟ้อง ตนเองและชาวบ้านก็จะได้รับความเดือดร้อนเพราะต้องหาหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัวในระหว่างดำเนินคดี เหมือนกับหลายๆคดีที่ชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นถูกทางบริษัทฯยื่นฟ้องตรงในลักษณะเดียวกัน แต่ศาลท่านมีความยุติธรรม และเชื่อในความสุจริตและความเดือดร้อนของชาวบ้านว่าเป็นเรื่องจริง จึงมีคำสั่งยกฟ้องในทุก ๆ คดีที่ผ่านมา รวมทั้งคดีนี้ด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/