ระยอง-กรรมาธิการลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำ

ระยอง-กรรมาธิการลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำ

ภาพ/ข่าว:อัจฉรา วิเศษศรี

    คณะอนุกรรมาธิการ​พิจารณา​ศึกษา​แนวทางการบริหาร​จัดการ​กลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออก​ เกาะติดการบริหารจัดการใช้น้ำของ​จังหวัด​ระยอง​ ห่วงน้ำไม่พอใช้ในช่วงหน้าแล้ง
     เมื่อ​วันที่​ 18 ก.พ.ที่ห้องประชุม​ศาลากลาง​จังหวัด​ระยอง​ ต.เนินพระ​ อ.เมือง​ จ.ระยอง​ ผู้​สื่อข่าว​ราย​งานว่า​ พล.ร.อ.พิเชฐ​ ตานะเศรษฐ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ​พิจารณา​ศึกษา​แนวทาง​การบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออก​พร้อมคณะ ได้เดินทาง ติดตามสถานการณ์​น้ำและการบริหารจัดการในกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออก​ ที่จังหวัดระยอง​ โดยมีประเด็นที่มาติดตาม​ ประกอบด้วย​
     ภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในจังหวัดระยอง​ การบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของโครงการอ่างเก็บน้ำประแสร์​ การบริหารการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ใช้น้ำภาคเกษตร​กรรม​กับผู้ใช้น้ำภาคการผลิต​ การติดตามสถานการณ์​น้ำและการวางแผนบริหารจัดการน้ำของคณะทำงาน​water war room ภาคตะวันออก​ ตลอดจนมารับทราบปัญหาและอุปสรรคด้วย​ ทั้งนี้มีนายสุรศักดิ์​ เจริญ​ศิริ​โชติ​ ผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​ระยอง​ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ รายงานสถานการณ์​และภาพรวมการใช้น้ำให้คณะอนุกรรมาธิการ​ได้รับทราบ​
     นายสุรศักดิ์​ กล่าวว่า​ จังหวัดระยอง​ มีแหล่งน้ำต้นทุน​ 5​ แห่ง​ ประกอบด้วย​ อ่างเก็บน้ำดอกกราย​ หนองปลาไหล​ ประแสร์​ และคลองใหญ่​ สถานการณ์​น้ำปัจจุบัน​พบปริมาณ​น้ำในอ่างเก็บน้ำหลักต่ำกว่าการคาดการณ์​ไว้​และพบว่ามีสถิติการใช้น้ำในทุกภาคส่วนอยู่ที่วันละ​ 1,083,830 ลบ.ม.ทั้งนี้จังหวัดระยอง​ มีแนวทางแก้ไขปัญ​หาภัยแล้ง​ทั้งระยะสั้นและยาว ซึ่ง​คาดการณ์​ว่า​จะทันเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงเดือนมิถุนา​ยนนี้​  โดยเฉพาะมาตรการ​ในการผันน้ำอ่างเก็บน้ำหลัก​ และจังหวัดใกล้เคียงเข้าเติมซึ่งกันและกัน​ เตรียมเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมและอุปโภค-บริโภค​ การทำฝนเทียม​ สำรวจแหล่งน้ำและน้ำบาดาลในพื้นที่​ และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบสถานการณ์​น้ำปัจจุบัน​และให้ทุกภาคส่วนได้ใช้น้ำอย่างประหยัด​อีกด้วย
    พลเรือเอก พิเชษฐ ตานะเศรษฐ ประธานคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออก กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการต่าง  มาให้ข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก มารับฟังข้อมูลจากภาคประชาชนในการแก้ไขปัญหาระยะยาว เมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของผลไม้ ส่วนจังหวัดระยองเป็นเรื่องของอุตสาหกรรม จากการรับฟังข้อมูลจากทุกหน่วยงาน ปริมาณน้ำทั้ง 5 อ่างของจังหวัดระยอง ยังสามารถที่จะดูแลภาคอุตสาหกรรมต่อไปได้ เพราะมีการวางแผนรองรับทั้งในเรื่องน้ำต้นทุนที่จะนำมาเพิ่ม การบริหารจัดการน้ำจากอ่างเก็บน้ำทุกอ่างเพื่อบริหารให้ครอบคลุมทั้ง 3 จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ปัญหามีแน่นอนแต่มีการวางแผนมีการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว
     ส่วนน้ำภาคการเกษตรในระยะสั้นทางกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยถึงการจัดสรรใช้น้ำในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ส่วนเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคได้เน้นย้ำต้องไม่ให้มีปัญหาและมีใช้อย่างเพียงพอ ในส่วนภาคอุตสาหกรรมที่มาระยองในวันนี้ได้มีการเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ อีกทั้ง จังหวัดระยอง ได้ตั้งวอร์รูมโดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นประธาน เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ เดิมมีการประชุมทุก 15 วัน ปัจจุบันนี้เป็น 7 วัน ซึ่งถ้ามีความเข้มงวดขึ้นก็จะประชุมทุก 3 วัน
     “…เชื่อว่าความร่วมมือความตั้งใจการแก้ไขปัญหาของผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งส่วนราชการต่าง  จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และเป็นหนทางในการแก้ไขปัญหา ซึ่งคิดว่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้ทำน้ำทะเลเป็นน้ำจืดนั้น ก็เป็นข้อมูลอันหนึ่งที่เป็นประโยชน์ แต่การใช้น้ำทะเลมาทำเป็นน้ำจืดนั้นเท่าที่ทราบมามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เฉลี่ยค่าใช้จ่ายลูกบาศก์เมตรละ 40 บาท…” พลเรือเอก พิเชษฐ ตานะเศรษฐ กล่าว

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!