ศรีสะเกษ-ทุ่ม 5 ล้านเปิดศูนย์เรียนรู้ชาติพันธุ์ 4 เผ่าไทหัตถวิถีมณีวิภา

ศรีสะเกษ-ทุ่ม 5 ล้านเปิดศูนย์เรียนรู้ชาติพันธุ์ 4 เผ่าไทหัตถวิถีมณีวิภา

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข 

              มลวิภาทุ่ม 5 ล้านเปิดศูนย์เรียนรู้ชาติพันธุ์ 4 เผ่าไทหัตถวิถีมณีวิภา แหล่งรวมผ้าไหมและผ้าฝ้ายแห่งแรกของเมืองดอกลำดวนหวังสร้างรายได้ให้กลุ่มทอผ้าตามชนบทที่ห่างไกล

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์การเรียนรู้หัตถวิถีมณีวิภา ตั้งอยู่เลขที่ 62/1 ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นางมลวิภา โบจรัส ผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้หัตถวิถีมณีวิภา ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าพื้นเมือง เครื่องเงินและเครื่องจักรสาน เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้รับเกียรติจาก นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ มาเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ขึ้นมา มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาว อ.อุทุมพรพิสัย และชาวศรีสะเกษมาร่วมพิธีจำนวนมาก โดยหลังจากพิธีเปิดศูนย์แล้วประธานและผู้มาร่วมงานได้พากันเยี่ยมชมขั้นตอนต่าง ๆ ของการทอผ้าไหม ผ้าฝ้าย ซึ่งกลุ่มแม่บ้านได้พากันมาสาธิตให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชม รวมทั้งสาธิตการแส่วเสื้อ ที่มีลวดลายสวยงามตระการตา มีการจัดแบ่งสัดส่วนภายในศูนย์เรียนรู้อย่างเป็นระบบ ทั้งการเลี้ยงไหม การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ การทอผ้าไหม ทอผ้าฝ้าย การแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ผ้าพื้นเมืองและผ้าฝ้ายที่ทอเสร็จแล้ว มีสีสันลวดลายที่สวยงามมาก บ่งบอกถึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นแดนลำดวน เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ได้มาเลือกซื้อในราคาที่เป็นกันเอง อีกทั้งมีการตกแต่งรอบบริเวณศูนย์เรียนรู้ด้วยผ้าไหมและผ้าฝ้าย และมีร้านกาแฟสดที่ชงโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งผ่านการอบรมการชงกาแฟมานานนับปีเพื่อไว้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ด้วย

                   นางมลวิภา โบจรัส ผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้หัตถวิถีมณีวิภา เปิดเผยต่อไปว่า การที่ตนเปิดศูนย์เรียนรู้นี้ขึ้นมา เนื่องจากว่า ตนมีพื้นเพเป็นชาวอีสานโดยกำเนิด และได้ไปประกอบธุรกิจอยู่ที่หลายจังหวัด เมื่อกลับมายังบ้านเกิดของพ่อแม่มาพบว่า มีการทอผ้าไหมและผ้าฝ้ายแทบจะทุกหมู่บ้านของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งปกติตนเป็นคนชอบสวมใส่ผ้าไหมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวอยู่แล้ว พอมาเห็นว่า จ.ศรีสะเกษมีการทอผ้าและปักแส่วเสื้อซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของไทยศรีสะเกษเรา มีการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ จึงเป็นการจุดประกายความคิดว่า เราจะทำอัตลักษณ์ตรงนี้ จากการใช้วัสดุธรรมชาติทุกอย่างที่มีในชุมชนในหมู่บ้านของเรา ได้จากพ่อแม่คุณตาคุณยายของเราเป็นคนทำขึ้นมา ไม่ใช้เครื่องจักร ใช้มือเย็บเอง ตนอยากจะรักษาอัตลักษณ์ตรงนี้ไว้ให้นานที่สุด

                    นางมลวิภา กล่าวต่อไปว่า ตนอยากเก็บไว้เป็นศูนย์เรียนรู้ว่าตอนนี้ ชาติพันธุ์ของเราคืออะไร ความหมายของ อัตลักษณ์คืออะไร อยากให้มีการเรียนรู้ เป็นการหาตลาด เป็นจุดที่จะสร้างรายได้ให้กับชุมชนของเรา โดยที่ว่าเราจะไม่ต้องไปหารายได้จากที่อื่นในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ทำให้คนรุ่นโบราณได้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันในโลกโซเชี่ยลนี้ให้ได้ ซึ่งตนจะนำอัตลักษณ์วัฒนธรรมทั้ง 4 เผ่าพื้นบ้านของ จ.ศรีสะเกษคือ เผ่าส่วย ลาว เขมรและเยอ มารวมอยู่ที่ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ เป็นศิลปะของแต่ละหมู่บ้านเป็นการเรียนรู้ว่า แต่ละหมู่บ้านพื้นเพของเรา เริ่มต้นจากตรงไหน มีความเป็นมาอย่างไร อย่างตรงจุดนี้ เป็นจุดเรียนรู้ชาติพันธุ์ลาว ทุกจุดภายในศูนย์แห่งนี้ จะมีทั้ง 4 เผ่าของ จ.ศรีสะเกษ ตนจึงได้ทุ่มเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อจัดทำศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ขึ้นมา เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไว้ให้ถึงชนรุ่นหลังต่อไป เพราะว่านี่คืออัตลักษณ์ของอีสานเรานั่นเอง ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-7186726 และ 091-0354493

                   นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้จะเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ของการผลิตผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าไหม นอกจากจะเป็นศูนย์การเรียนรู้แล้วยังเป็นแหล่งในการกระจายผลิตภัณฑ์ ซึ่งชาวบ้านเป็นผู้ผลิตแล้วศูนย์แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางแหล่งในการกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผลิตภัณฑ์โอท๊อปพื้นเมืองต่าง ๆ ถือว่าเป็นการเปิดตัว และจะเป็นการช่วย จ.ศรีสะเกษอีกทางหนึ่งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ชุมชนและสินค้าโอท๊อป ซึ่งศูนย์เรียนแห่งนี้ถือว่าเป็นศูนย์เรียนรู้แห่งแรกของ จ.ศรีสะเกษ จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผู้ที่จัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้นมาจะต้องยอมรับว่า เป็นผู้ที่มีความกล้า มีความรู้ มีความตั้งใจจริง และมีความเสียสละในการที่จะมองอย่างไรให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนกับชาวบ้าน สุดท้ายศูนย์เรียนรู้แห่งนี้จะเป็นประโยชน์กับ จ.ศรีสะเกษเป็นอย่างมากทีเดียว จึงขอฝากเชิญชวนประชาชนชาวศรีสะเกษและชาวไทยทั่วประเทศให้มาเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ ขอยืนยันว่า ท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าไหมที่มีลวดลายสีสันงดงามอยู่จำนวนมากรวมทั้งผลิตภัณฑ์หัตถกรรมต่าง ๆ ของทั้ง จ.ศรีสะเกษมารวมอยู่ที่แห่งนี้แล้ว เมื่อมาเยี่ยมชมที่นี่รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!