เชียงใหม่-ผู้ว่าฯยันเร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ย้ำ นอภ.เฝ้าระวัง
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ยืนยันทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างเต็มกำลัง กำชับนายอำเภอ ต้องติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังพื้นที่เกิด Hotspot ซ้ำซากอย่างใกล้ชิด
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวในรายการ “ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พบประชาชน” ออกอากาศทาง สวท.เชียงใหม่ F.M 93.25 MHz เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหามาตั้งแต่ 1 มกราคม มีจุด Hotspot เกิดขึ้นหลายจุด ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเผา โดยเฉพาะการเผาในพื้นที่ป่า และพื้นที่ที่ประชาชนเข้าไปหาของป่า โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการเผาป่า รวมทั้งระดมกำลังเข้าตรวจสอบและดับไฟในแต่ละพื้นที่กันอย่างเต็มที่ แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่ในช่วงเช้าจะมีอากาศเย็น ทำให้อากาศกดตัวไม่ลอยไปไหน แต่ในช่วงบ่ายๆก็จะยกตัวสูงขึ้น และยังมีกระแสลมตะวันตกพัดเอาฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาร่วมด้วย ทำให้สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าทุกภาคส่วนล้วนแต่ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่กันอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานจุด Hotspot อ้างอิงจากเวปไซต์กรมป่าไม้ วันที่ 1 มี.ค.63 (รอบเช้า เวลา 02.18 น.) จำนวน 114 จุด ในพื้นที่ 16 อำเภอ 36 ตำบล สำหรับคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ (ที่มาจากเว็ปไซด์ Air4Thai) พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. ในตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง 47 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มีระดับปานกลาง ส่วนในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง 78 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และตำบลสุเทพ อำเภอเมือง 52 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มีระดับคุณภาพอากาศที่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับ การใช้มาตรทางกฎหมายของจังหวัดเชียงใหม่ ได้จับกุมผู้ลักลอบเผาป่า จำนวน 166 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 17 ราย ป่าไม้ 93 ราย จราจร 56 ราย เปรียบเทียบปรับ จำนวน 66 ราย รวมเป็นเงิน 29,100 บาท แยกเป็นสาธารณสุข 12,600 บาท , จราจร 16,500 บาท ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 100 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 7 ราย , ป่าไม้ 93 ราย , ไม่มีตัว 93 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.พ. 63) ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดเหตุในป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ จึงอยู่ระหว่างการสืบหาผู้กระทำผิด
ด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการหมอกควันและไฟป่าอำเภอ ติดตามสถานการณ์และข้อมูลจาก ศูนย์ฯ จังหวัด อย่างใกล้ชิด และย้ำให้ใช้มาตรการที่ได้เคยแจ้งไว้แล้ว ทั้งมาตรการปิดป่า และมาตรการให้ตั้งจุดเฝ้าระวังแบบบูรณาการในพื้นที่เกิด Hotspot ซ้ำซาก พร้อมทั้งจัดชุดเสบียงและสับเปลี่ยนกำลัง ภายใต้การบริหารจัดการของนายอำเภอในพื้นที่นั้น และขอให้รายงานการดำเนินงานให้ ศูนย์ฯจังหวัด ทราบด้วย