พิษณุโลก-ปิดฉากคอบร้าโกลด์ 20 ฝึกกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง

พิษณุโลก-ปิดฉากคอบร้าโกลด์ 20 ฝึกกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง

ภาพ/ข่าว:อนุชา แก้วคำมา

ปิดฉากคอบร้าโกลด์ 20 ฝึกกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง

            เมื่อวันที่6 มี.ค. 63 ที่สนามฝึกกองทัพภาคที่ 3 อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย พลเรือเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย นายไมเคิล จี. ดีซอมบรี (H.E. Mr. Michael G. Desombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ พลโท เฮอร์แมน สเตซี่ แคลร์ดี (LTG H. Stacy Clardy) ผู้บัญชาการกำลังรบนอกประเทศ นาวิกโยธินที่ 3 และผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธิน ประจำประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 20 พร้อมทั้งชมการสาธิตการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) และชมนิทรรศการอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยมี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจากมิตรประเทศ ผู้บัญชาการทหารบก และผู้แทนเหล่าทัพเข้าร่วมในพิธี

               สำหรับการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ประกอบด้วย กำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองทัพไทย กองทัพสหรัฐอเมริกา กองทัพสิงคโปร์ กองทัพมาเลเซีย และกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ยอดผู้เข้าร่วมการฝึกกว่า 700 นาย กิจกรรมการฝึกประกอบด้วย การโดดร่มแทรกซึมเบื้องสูง การซุ่มยิง การบินขัดขวางทางอากาศ การยิงเตรียมและการยิงสนับสนุนของปืนใหญ่ การเจาะช่องเปิดเส้นทางของทหารช่าง การเคลื่อนที่ประกอบการยิง การโจมตีทางอากาศ การสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด การยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ และการเข้ายึดที่หมาย โดยมียุทโธปกรณ์สำคัญที่เข้าร่วมการฝึกฯ ประกอบด้วย รถถัง Stingray ปืนใหญ่ M101A1 เครื่องบินขับไล่ F-16 รถโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก จากกองทัพไทย จรวดหลายลำกล้อง HIMARS รถโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก AAV เครื่องบินขับไล่ F-35B Lightning II, F-16 เครื่องบิน P-8 จากกองทัพสหรัฐอเมริกา รถโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก และปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร

             ปัจจุบันการฝึกคอบร้าโกลด์ ถือเป็นการฝึกทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด – แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี การฝึกคอบร้าโกลด์ที่ผ่านมา นับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง ในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังพลของประเทศที่เข้าร่วมการฝึกฯ และเป็นศูนย์รวมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ หลักนิยม และเทคโนโลยีทางทหาร รวมทั้งเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับกำลังพลของกองทัพไทยและกองทัพมิตรประเทศในปฏิบัติการร่วม/ผสม สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เพื่อรักษาเสถียรภาพและผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคโดยรวม นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งได้แสดงออกถึง ความเอื้ออารี ยิ้มแย้มแจ่มใส และความมีน้ำใจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยให้ปรากฏแก่สายตาของกำลังพลมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!