กาญจนบุรี-สธ.เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด
ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤษ์
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้เสี่ยงติดเชื้อในพื้นที่อย่างเข้มงวด พร้อมให้สื่อสารให้ข้อมูลกับประชนชนในพื้นที่อย่างถูกต้องและไม่ตื่นตระหนก ยืนยันขณะนี้จังหวัดกาญจนบุรียังไม่มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
วันนี้ ( 9 มี.ค.63) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมกัลปพฤกษ์ อาคารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายอนุชา วรหาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุมทางไกล ด้านมาตรการสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยมี นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานของส่วนกลางร่วมประชุมกับทุกจังหวัด พร้อมด้วย นางสาวชลิดา ถนอมวงษ์ นายวิสิทธิ์ ปิ่นประชานันท์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล หัวหน้าฝ่าย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมประชุม รวมทั้งการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
โดยในที่ประชุมได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง หากพบในพื้นที่จะต้องเข้าไปสอบสวนประวัติ ข้อมูล และตรวจคัดกรอง หากพบว่ามีอาการจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ให้ส่งเข้ากักกัน หรือ ส่งเข้าสถานที่เฝ้าระวังทันที พร้อมติดตามอาการอย่างต่อเนื่องใน 14 วัน รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสื่อสาร ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ถูกต้องตามข้อเท็จ และไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก พร้อมให้คำแนะนำในการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัส โควิด-19
นายอนุชา วรหาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีขณะนี้ไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะเดียวกันได้มีการเตรียมพร้อมสถานที่ที่จะเป็นสถานที่กักกันผู้เข้าเกณฑ์ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง ในสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งจะมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ขณะนี้ได้มีการรวมทีมสาธารณสุขทั้งจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลค่าย รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนที่จะมาร่วมกันดูแลประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงกลับภูมิลำเนาที่เข้าเกณฑ์จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว ในส่วนของผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ในการกักตัวก็จะต้องกักตัวเองที่บ้าน โดยแยกออกจากครอบครัวเป็นเวลา 14 วันและจะต้องปฏิบัติตนตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและชุมชน ผู้นำชุมชน เข้าไปตรวจสังเกตอาการทุกวันจนครบ 14 วัน
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือชาวจังหวัดกาญจนบุรีในการเผยแพร่ข้อมูลและแพร่กระจายข่าวออกไปให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงอาจจะมีความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ และจะสร้างความตื่นตระหนกทำให้เกิดผลเสียต่อภาพรวมของจังหวัด ขอให้ช่วยกันที่จะทำจังหวัดให้เข้มแข็งพร้อมร่วมใจกันต่อสู้และให้กำลังใจกับผู้ที่มาจากประเทศเสี่ยงหรือต่างประเทศให้เดินทางกลับบ้านให้อยู่ร่วมกับคนในสังคมได้
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/