กาญจนบุรี-ตรวจสอบความเรียบร้อยเครื่องสูบน้ำช่วยภัยแล้ง
ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์
นอภ.ห้วยกระเจาพร้อมนายกเทศบาลสระลงเรือลงตรวจสอบความเรียบร้อยเครื่องสูบน้ำหลังได้รับความเสียหายก่อนจะสูบน้ำช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจา
วันนี้(9 มีนาคม 2563 ) เวลา 10.00 น.ว่าที่ร้อยตรี ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศบาลตำบลสระลงเรือ นายดิเรก สุขเกษม ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลสระลงเรือพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางลงพื้นที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ 1 ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อทำการตรวจสอบเครื่องสูบน้ำภายในสถานีแห่งนี้หลังได้รับความเสียหายและเจ้าหน้าที่กองช่างได้ดำเนินการทำการซ่อมแซมแล้วเสร็จเร่งดำเนินการสูบน้ำไปกั๊กเก็บไว้ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำหมู่ที่ 6 หลังวัดพรมนิมิต ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อกั๊กเก็บน้ำไว้ช่วยเหลือชาวบ้านในอำเภอห้วยกระเจาและอำเภอใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านภัยแล้งเพื่อจะได้นำไปใช่ในการแก้ปัญหาดังกล่าวในช่วงของฤดูแล้ง
และเมื่ิอคณะของว่าที่ร้อยตรีศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจา ได้เดินทางไปถึงยังบริเวณพื้นที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ 1 ในโครงการชลประทานเมืองกาญจนบุรี-พนมทวน อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี คณะดังกล่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเกี่ยวกับครื่องสูบน้ำว่าเป็นเช่นไร สามารถทำการสูบน้ำได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้กล่าวเครื่องสูบน้ำสามารถใช้งานได้ตามปกติ ว่าที่ร้อยตรีศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจาจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลควบคุมดูแลเครื่องสูบน้ำให้ดำเนินการทำการสูบน้ำจากในคลองชลประทานที่อยู่ใกล้สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ 1 ไปกั๊กเก็บไว้ยังอ่างเก็บน้ำหลังวัดพรหมนิมิตรหมู่ที่ 6 ในตำบลห้วยกระเจาเพื่อไว้ช่วยเหลือชาวบ้านชาวไร่ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของน้ำดื่มน้ำใช้รวมไปถึงเรื่องของการเกษตรในช่วงของฤดูแล้งในพื้นที่ของอำเภอห้วยกระเจาได้น้ำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาในเบื้องตนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
หลังจากนั้น นายอำเภอห้วยกระเจาได้เดินทางต่อไปยังบริเวณอ่างเก็บน้ำของอำเภอห้วยกระเจาเพื่อทำการตรวจสอบเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่ได้ทำการสูบและส่งมาจากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทั้ง 2 โรง มายังอ่างเก็บน้ำแห่งนี้พบว่า น้ำที่ได้ทำการสูบและส่งมาจากเครื่องสูบน้ำทั้ง 2 สถานีปริมาณน้ำที่ไหลมาจากท่อสูบน้ำดังกล่าวมีปริมาณน้อยเนื่องจากระยะทางของท่อส่งน้ำดังกล่าวจากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือมา 1 ถึงยังอ่างเก็บน้ำหมู่ที่ 6 ตำบลห้วยกระเจาระยะทางประมาณ 8 ก.ม.และ สถานีสูบน้ำที่ 2 ระยะทาง 5 ก.ม.ซึ่งถือว่าระยะทางไกลพอสมควรจึงทำให้น้ำที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสูบขึ้นมาเพื่อไปกั๊กเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำหลังวัดพรมนิมิต หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ถือว่าไกลจึงทำให้ปริมาณที่ได้ทำการสูบขึ้นมาได้ไม่มากเนื่ิองจากท่อส่งน้ำดังกล่าวมีขนาดใหญ่ 16 นิ้ว ความใหญ่ของท่อบวกกับระยะทางไกลทำให้น้ำที่ได้ทำการสูบขึ้นมาและถูกส่งต่อไปยังท่อส่งแล้วไปลงยังอ่างจึงมีปริมาณน้อย
ส่วนทางด้าน พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ประธานกรรมาธิการทหาร คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทาง การบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบและเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนในอนาคต ว่า ผมทำในนามของกรรมาธิการแก้ไขปัญหาภัยแล้งระดับประเทศ ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรี เราก็จะมองกลุ่มงาน ที่เกิดประโยชน์แก่ชาวจังหวัดกาญจนบุรี 3 กลุ่มงาน กลุ่มงานที่ 1 คือการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์มาที่อำเภอบ่อพลอยเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ 4 อำเภอ อย่าง อำเภอบ่อพลอย อำเภอห้วยกระเจา อำเภอหนองปรือ และอำเภอเลาขวัญจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งโครงการนี้ใหญ่มาก จะต้องใช้งบประมาณหมื่นเก้าพันล้าน (19,000 ล้านบาท) นะครับโดยที่จะมีการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ มาลงที่อ่างเก็บน้ำลำอีซู แล้วผันน้ำจากลำอีซูไปที่อ่างเก็บน้ำห้วยรวกห้วยเทียนของอำเภอเลาขวัญ หนองนาทะเล ของอำเภอห้วยกระเจา โครงการนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยการสำรวจ และเข้าทำแผนในปี 2566 โดยประมาณปี 2570 นะครับก็จะประสบผลสำเร็จ
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/