เชียงใหม่-ผู้ว่าฯวอนทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวังมิให้เกิดไฟป่า
ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาักิจจังหวัดเชียงใหม่
ผวจ.เชียงใหม่ เป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความเหนื่อยล้า ท่ามกลางเปลวไฟ หลังระดมเข้าดับไฟจนจุดความร้อนลดลงมาก วอนทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวังมิให้เกิดไฟป่า หวั่นกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีความห่วงใยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนเสียสละ เป็นการทำงานที่หนักท่ามกลางความร้อน ความเหน็ดเหนื่อย และอันตรายมากมาย ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศปฏิบัติการ Set Zero โดยเป็นการระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนสนธิกำลังเข้าดับไฟป่าในพื้นที่ที่มีไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งบางพื้นที่สามารถดับได้ แต่บางพื้นที่ไม่สามารถเข้าดับไฟได้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่มีความลาดชัน จึงขอให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างมาก หากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม ขอให้แจ้งมายังศูนย์บัญชาการฯ อำเภอ โดยทางศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดได้ทยอยนำน้ำดื่มและไข่ไก่เข้าไปแจกจ่ายให้หน่วยงานในพื้นที่แล้ว รวมทั้งพยายามเร่งเบิกค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปจัดสรรให้แต่ละพื้นที่อย่างเร่งด่วน
ส่วนทางด้าน ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าเช้านี้มีจุด Hotspot เกิดขึ้นจำนวน 199 จุด ซึ่งจะเห็นว่าลดลงถึง 484 จุด จากเมื่อวานเกิดขึ้นสูงถึง 683 จุด ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ (เว็ปไซด์ air4thai) ในช่วงเช้า (เวลา 07.00 น.) อยู่ที่ 236 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับพื้นที่สีแดง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากความกดอากาศ รวมทั้งสภาพลมอ่อน และอุณหภูมิที่ผกผันที่ระดับล่าง ส่งผลให้อากาศไม่ยกตัว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีสภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ทำให้เกิดการสะสมของหมอกควันมากขึ้น ขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง และสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเมื่อออกนอกบ้าน หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ช่วยกันรณรงค์ เฝ้าระวังมิให้เกิดไฟป่าไม่ว่าในกรณีใดๆ เพราะในการปฏิบัติงานแต่ละครั้งจะต้องใช้กำลังจากหน่วยงานต่างๆ เข้าปฏิบัติงานเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่จะปฏิบัติได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลกระทบต่อประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย