สุพรรณบุรี-ร่วมเปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิค-19

สุพรรณบุรี-ร่วมเปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิค-19

ภาพ/ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี

ร่วมเปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิค-19

          นายวิโรจน์ คณูวัฒนา นายกเทศมนตรีเมืองสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมนายภาณุ มิตรสันติสุข รองนายกเทศมนตรี ร่วมเปิดเผยว่าเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิค-19 ทำให้มีความจำเป็นต้องระวังและป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ประกอบกับจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีหนังสือขอให้หน่วยงานต่างๆ พิจารณาถึงความจำเป็นในการจัดประชุม สัมมนา การจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก

            ทางเทศบาลเมืองสองพี่น้อง พิจารณาเห็นสมควรของดการจัดงานประเพณีเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ประจำปี 2563 เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด19 และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการแพร่ระบาดและการติดเชื้อโรคดังกล่าว อย่างไรก็ตามพี่น้องประชาชนยังสามารถสืบสานงานประเพณีสงกรานต์และวันขึ้นปีใหม่ไทยได้ด้วยการทำกิจกรรมภายในครอบครัว เช่น การทำบุญตักบาตร รดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ภายในครอบครัว พบปะสังสรรค์ในหมู่ญาติพี่น้อง โดยพยายามเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก และอากาศไม่ถ่ายเท หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้ง และถือปฏิบัติในการป้องกันตนเองด้วยการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือให้สะอาด ก่อนสัมผัสหรือหลังการสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน

            ส่วนความพร้อมและมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่ผ่านมานายวิโรจน์ คณูวัฒนา นายกเทศมนตรีเมืองสองพี่น้อง จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) โดยมีสมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนการงาน สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานชุมชน สมาชิก อสม. พนักงานเทศบาล พนักงานครูเทศบาล พนักงานจ้าง และลูกจ้าง เข้ารับการอบรม ซึ่งก่อนการเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ ผู้เข้าร่วมการอบรมทุกคนจะต้องผ่านจุดคัดกรอง โดยจุดคัดกรองดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่จัดเตรียมอุปกรณ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ได้มาตรฐาน ให้ผู้ที่เข้าร่วมการอบรมได้ใช้ในการฆ่าเชื้อ และมีเจ้าหน้าที่ในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่เข้ารับการอบรม ถ้าหากผู้ที่เข้ารับการอบรมมีอุณหภูมิร่างกายปกติจะได้รับสติกเกอร์สีเขียวติดที่บริเวณเสื้อ
            ถ้าหากผู้ที่เข้าร่วมการอบรมมีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38 องศาขึ้นไป เจ้าหน้าที่จะขอให้งดการเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย และผลจากการตรวจเช็ค ณ บริเวณจุดคัดกรองดังกล่าว ก็ไม่พบเจ้าหน้าที่หรือผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการที่มีอุณหภูมิร่างกายเกิน 38 องศา ซึ่งก็ทำให้การอบรมเชิงปฏิบัติการผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย พร้อมกับผู้ที่เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการก็ได้รับความรู้จากท่านวิทยากรของโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 17 รวมทั้งวิทยากรพิเศษ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!