เชียงใหม่-อธิบดีกรมควบคุมมลพิษติดตามฝุ่นควันและไฟป่า
ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันและไฟป่าเชียงใหม่ หลังค่าฝุ่นละอองพุ่งสูง ทั้งจากหมอกควันข้ามแดน และพบจุดความร้อนในพื้นที่จำนวนมาก
วันนี้ (19 มี.ค. 63) เวลา 10.30 น. นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมคณะ ประชุมติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ผ่านระบบ VDO Conference โดยมี นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ โดยเช้านี้สถานการณ์คุณภาพอากาศยังคงเกินค่ามาตรฐาน มีผลมาจากฝุ่นควันข้ามแดน ส่งผลกระทบกับตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับยังพบจุดความร้อนจำนวนมากใน จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เกิดไฟไหม้หลายแห่งใกล้ตัวเมือง ส่งผลให้เกิดฝุ่นละอองและหมอกควันจำนวนมาก เนื่องจากยังมีการลักลอบเผาในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ ได้มีการติดตามสถานการณ์การเกิดเหตุไฟป่า จำนวนจุดความร้อน(Hotspot) ที่เกิดขึ้น การจับกุมและดำเนินคดี รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ ซึ่งได้มีการแจ้งข้อมูลการประสานการดำเนินงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ในเรื่องของมาตรการการควบคุมไฟป่าของประเทศเมียนมาและประเทศลาว ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลได้มีหนังสือไปถึงเลขาธิการอาเซียน เพื่อขอความร่วมมือในเรื่องของการควบคุมสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า โดยกำลังดำเนินการหางบประมาณเพื่อติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศค่าฝุ่นละออง PM 2.5 และ PM 10 เพิ่มเติมทั้ง 3 จังหวัดให้ครอบคลุมในพื้นที่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.63) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะประชุม VDO Conference ร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นควันร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เหตุไฟไหม้ บริเวณหลังบ้านพักตุลาการศาลอุธรณ์ภาค 5 ในเขตพื้นที่ใช้ประโยชน์ของทหาร รอยต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย หลังจากเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ เจ้าหน้าที่อุทยานดอยสุเทพ-ปุย ชุดปฏิบัติการเสือไฟกรมอุทยานฯ กำลังทหารจาก มทบ.33 และเครือข่ายชาวบ้านจิตอาสาบริเวณห้วยตึงเฒ่า เข้าไประงับเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวันนี้ได้ใช้โดรนจิตอาสาบินสำรวจ ร่วมกับส่งกำลังกำลังภาคพื้นดิน เดินสำรวจและเฝ้าระวังอยู่บริเวณที่เกิดไฟและพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องกันและควบคุมการลุกลามเป็นวงกว้าง เบื้องต้นจากที่สำรวจล่าสุดมีพื้นที่เสียหายไปแล้วกว่า 300 ไร่