เชียงใหม่-แจงการหยุดกิจการชั่วคราวตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน
ภาพ/ข่าว:นันธิกา กิจปาโล/ศราวุธ เจิมจันทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงการหยุดกิจการชั่วคราวตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน ขณะที่ อัยการจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงโทษการหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของจังหวัดเชียงใหม่
ร้อยเอกจรัญ คุณยศยิ่ง สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่กระจายและมีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการของนายจ้าง จนทำให้นายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ จำเป็นต้องหยุดกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว ซึ่งเหตุจำเป็นนั้นมิใช่เหตุสุดวิสัย นายจ้างก็อาจหยุดกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราวได้ โดยกฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของค่าจ้างในวันทำงานที่ลูกจ้างได้รับก่อนนายจ้างหยุดกิจการ ตลอดเวลาที่นายจ้างไม่ได้ให้ลูกจ้างทำงาน ณ สถานที่จ่ายเงิน และภายในกำหนดเวลาการจ่ายค่าจ้างปกติที่ตกลงกัน
โดยในการหยุดกิจการดังกล่าวนายจ้างต้องแจ้งให้ลูกจ้าง และพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงานจังหวัด ทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือ ก่อนวันเริ่มหยุดกิจการไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ นายจ้างผู้ใดให้ลูกจ้างหยุดงานโดยไม่จ่ายเงินให้แก่ลูกจ้าง จะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และนายจ้างผู้ใดให้ลูกจ้างหยุดงานโดยไม่แจ้งให้ลูกจ้าง และพนักงานตรวจแรงงานทราบ ต้องระวางโษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5389-0472-3 ในวันและเวลาราชการ
ด้าน นายสุริยา สุยะนา อัยการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่มีการลักลอบให้บริการนวดแผนโบราณทางออนไลน์ โดยส่งพนักงานนวดไปนวดในสถานที่ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก หรือห้องพักต่างๆ นั้น เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้สั่งให้ปิดสถานบริการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พรบ.โรคติดต่อ อันเป็นเหตุให้โรคติดต่อแพร่ขยายออกไปได้ และมีโทษปรับสูงสุดสองหมื่นบาท