เชียงใหม่-กฟผ.ร่วมกับ ปชส.มอบหน้ากากและเจลให้โรงพยาบาลฯ

ภาพ/ข่าว:พยุงศักดิ์ เทพแก้ว 
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

    กฟผ.ร่วมกับ กรมประชาสัมพันธ์ มอบหน้ากากอนามัยและเจลล์ล้างมือ ให้บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ นำไปใช้ป้องกันตนเองในการรักษาผู้ป่วย
      วันนี้ (2 เม.ย.2563) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กระทรวงพลังงาน นำโดย นายสำรวม ธรกิจ หัวหน้าสำนักงานเชียงใหม่ ฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ นำโดย นางรพีพร มีสะอาด ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เป็นผู้แทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นำอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย จำนวน 1,000 ชิ้น และเจลล์ล้างมือ จำนวน 1 แกลลอน มอบให้กับ นายแพทย์ ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อนำไปให้แพทย์และพยาบาลใช้ในการปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วย รวมถึงใช้ป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้กิจกรรม กระทรวงพลังงาน กฟผ. กรมประชาสัมพันธ์ ส่งน้ำใจ มอบหน้ากากอนามัย สู้ภัยโควิด-19 “ด้วยรักและห่วงใย เป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์”
        นายแพทย์ ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า หน้ากากอนามัย รวมถึงเจลล์ล้างมือ และอุปกรณ์การแพทย์ ที่หน่วยงานต่างๆ ได้นำมามอบให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ถือเป็นสมบัติล้ำค่า ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ยังมีความต้องการอีกจำนวนมาก เมื่อได้ใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์เกิดความมั่นใจ และมีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วย
สำหรับสถานการณ์ของโรค COVID-19 ในประเทศไทย รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ ถือว่ายังไม่รุนแรงเหมือนการแพร่ระบาดในประเทศอื่นๆ โดยได้พยายามไม่ให้สถานการณ์เกิดบานปลาย ด้วยการเร่งดูแลผู้ป่วยให้หายโดยเร็วและไม่ให้มีอาการหนัก เพราะหากมีอาการหนักแล้วจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จะทำให้การรักษาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะโรงพยาบาลต่างๆ มีเครื่องช่วยหายใจในปริมาณจำกัด ทำให้อาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นได้ ขณะนี้ในภาพรวมของจังหวัดฯ ทั้งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ รวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เร่งระดมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์มาช่วยกัน เพื่อที่จะแก้ปัญหาและยุติการแพร่ระบาดของโรคร้ายนี้ให้ได้ในที่สุด ยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์จะทุ่มเทกำลังในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลังความสามารถ
      อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้หยุดการแพร่ระบาดของเชื้อได้นั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ต้องป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ และไม่ไปแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น จึงขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนปฏิบัติตนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งการเก็บตัวอยู่กับบ้าน และเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ร่วมกิจกรรมพบปะสังสรรค์ ใช้อุปกรณ์ป้องกันและรักษาความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ และพยายามไม่เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว เนื่องจากบุคคลเหล่านี้สามารถติดเชื้อได้ง่าย และเมื่อได้รับการติดเชื้อแล้วจะมีอาการหนักกว่าบุคคลทั่วไป