ปราจีนบุรี-แถลงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า เพิ่มเป็น 8 ราย
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
แถลงสื่อมวลชน ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า เพิ่มเป็น 8 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต กักกันตัวบุคลากรทางการแพทย์ และแถมอีก อีก 3 แพทย์เจ้าของคลีนิคที่รักษา
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ 10 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงาน ที่ห้องประชุม 402 (ศูนย์การเรียนรู้) ชั้น 4 ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายพิบูลย หัตถกิจโกศล ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วย นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี และ พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ( COVID-19) นายพิบูลย หัตถกิจโกศล ผวจ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรีรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ประจำวันที่ 10 เมษายน 2563 จังหวัดปราจีนบุรี มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสม 83ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ 74 ราย รอผล 9 ราย วันนี้จังหวัดปราจีนบุรีพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย รวมมีผู้ป่วยยืนยันสะสมในจังหวัดปราจีนบุรี 8 ราย รายงานการสอบสวนโรคพบว่าผู้ป่วยรายที่ 6 เพศชายอายุ 37 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นชาวอำเภอเมืองมีโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน น้ำหนัก 95 กิโลกรัม เริ่มมีอาการไข้สูง และทอมซิลอักเสบ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 จึงไปรักษาคลินิกแพทย์ แห่งที่ 1 ในตัวเมืองปราจีนบุรี
ต่อมา วันที่ 24 มีนาคม 2563 ไปรักษาคลินิกพยาบาล อาการดีขึ้นระหว่างนี้ได้เดินทางไปบ้านเพื่อนสนิทในละแวกบ้านเดียวกันวันที่ 1 เมษายน 2563 เริ่มมีอาการไอแห้งแห้งรับประทานได้น้อยลงและมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 6 เมษายน 2563 ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นจึงได้รักษาคลินิกแพทย์แห่งที่ 3 ในตัวเมืองปราจีนบุรี และส่งต่อโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ด้วยการไข้สูงหายใจเหนื่อยหอบและมีภาวะปอดอักเสบ ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สอบถามประวัติเสี่ยงในช่วง 14 วันก่อนป่วยได้มีการเดินทางไปทำงานในละแวก ได้แวะพักยังสถานที่ต่างๆทั้งในเมือง ในอำเภอกบินทร์บุรี และจังหวัดสระแก้ว ตามที่แจ้งในไทม์ไลน์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี และพบว่าผู้ป่วยมีประวัติเสี่ยงคือพักอาศัยอยู่กับภรรยา ซึ่งมีอาชีพเคยทำงานในร้านอาหารย่านสุขุมวิทกรุงเทพฯเดินทางกลับมาจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 จังหวัดปราจีนบุรีดำเนินการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยประกอบด้วยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงได้แก่ภรรยาและลูก 3 คนและเพื่อนสนิทอีก 1 คน เก็บตัวอย่างต่อส่งตรวจและกักตัว ที่โรงพยาบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล นอกจากนี้ยังมีการกักกันตัวบุคคล ทางการแพทย์ที่ให้การดูแลผู้ป่วยรายนี้จำนวน 25 คนและผู้สัมผัสเสียงต่ำ 1 คนคือคนที่คนงานซึ่งเป็นลูกจ้างของผู้ป่วยแนะนำให้เฝ้าระวังสังเกตอาการพร้อมทั้งให้สวมหน้ากากป้องกันตนเองตลอดจนมีการสั่งปิดและทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่คลินิกทั้ง 3 แห่งในอำเภอเมืองเรียบร้อยแล้ว
ผู้ป่วยรายที่ 7 เพศชายอายุ 15 ปีลูกชายของผู้ป่วยรายที่ 4 มี ประวัติเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ด้วยสายการบินไทยเที่ยวบิน TG 911 พร้อมด้วยพ่อแม่ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 4 และน้องสาวแต่เนื่องด้วยผู้ป่วยเป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสียงสูงอยู่เดิมจึงได้กักกันตัวเองอยู่ที่บ้านพักในอำเภอบ้านสร้าง ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 ไม่ได้ออกไปไหนวันที่ 6 เมษายน 2563 เริ่มป่วยด้วยอาการไม่ได้กลิ่นและการรับรู้รสลงจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่และส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งผู้สัมผัสเสียงสูงได้แก่พ่อและน้องสาวขณะนี้ยังไม่มีอาการผิดปกติและเฝ้าสังเกตอาการโดย ส่วนคนขับรถตู้เหมาที่รับผู้ป่วยจากสนามบินมาบ้านพักได้ติดตามผลการตรวจพบว่าไม่พบเชื้อ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรีขอให้ประชาชนชาวจังหวัดปราจีนบุรีปฏิบัติตนในการป้องกันโรคตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขยึดหลักกินร้อนช้อนกลางล้างมืองดเที่ยวสังสรรค์ห่างกัน 2 เมตรอย่างเคร่งครัดเพราะการปฏิบัติตนที่ถูกต้องของบุคคลทุกคนคือกลไกที่สำคัญที่สุดในการยับยั้ง นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศลผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีกล่าวว่า ต่อมา ได้รับรายงานผู้ป่วย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้ป่วย อายุ 37 ปี ติดเชื้อเป็นผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอีกรวมผู้ติดเชื้อ 8 ราย ได้กักตัวที่โรงพยาบาลที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุด ได้รับรายงานยืนยันผลพบผู้ติดเชื้อรายที่ 8 เช้านี้(10 เม.ย.2563) เป็นชาย(นายตุ้ม) อายุ 45 อาชีพรับจ้างทั่วไปเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 6 เนื่องจากเป็นลูกน้องและขัยรถให้กับผู้ป่วยรายที่ 6 มานานหลายปี บุคคลในครอบครัวเดียวกัน รวม 5 ราย สนิทคลุกคลีกับลูกชายคนโต(อายุ 14 ปี)มาก
รายละเอียด Time Line ผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 8 วันที่ 20 มีนาคม – 7 เมษายน 2563 มีประวัติเดินทางไป – กลับ ระหว่างจังหวัดปราจีนบุรี – อ.เขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ทุกวัน โดยเดินทางร่วมกับผู้ป่วยรายที่ 6 ทั้งนี้ เพื่อไปเอาน้ำมันจากปั้มผู้ใหญ่โล่(อ.เขาฉกรรจ์) ไปส่งที่แยกทางเข้า อ.โคกสูง จ.สระแก้ว 6 เมษายน 2563 พาผู้ป่วยรายที่ 6 ไปคลีนิค แพทย์เผดิม และนำผู้ป่วยไป โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร 7 เมษายน 2563 ไปตลาดนัดตอนเช้าข้างค่ายจักพงษ์(ซื้อแกงถุง) ไปโลตัส เอ็กซ์เพรส ที่ถนนต่ำ ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี 8 เมษายน 2563 อยู่บ้านพัก ณ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี 9 เมษายน 2563 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร 10 เมษายน 2563 ผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดชลบุรี สำหรับผู้ป่วยอายุ 37 ปีมีข่าวลือว่าเสียชีวิตนั้นไม่เป็นความจริงเป็นเพียงมีอาการปอดติดเชื้อปอดติดเชื้อรุนแรงทางแพทย์ทางแพทย์ได้เปลี่ยนได้เปลี่ยนท่อเครื่องช่วยหายใจหายใจเพียงเท่านั้น ไม่เสียชีวิต”นายพิบูลย์ กล่าว
ด้าน พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวในการแถลงข่าวว่า “ จากข่าวว่ามีผู้เสียวิตในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จ.ปราจีนบุรี รายที่ 6 เป็นรายผู้ป่วยมีข่าวลือค่อนข้างเยอะ ขณะนี้ใส่ท่อหายใจ ใช้ เครื่องช่วยหายใจ การหยุดหายใจ การช่วยชีวิตไม่มีมูล อาจจะมีประเด็นในวันแรกที่ใส่เครื่องหายใจห้องฉุกเฉินเนื่องจากคนไข้อาการเหนื่อยมาก มีบุคลากรทางการแพทย์ 25 คนได้รับผลกระทบถูกกักตัวที่ห้องแยก โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว รอผลอยู่ วันนั้นมีการเปลี่ยนท่อช่วยหายใจ ภายใต้วิสัญญีแพทย์ ไม่ได้มีการปั้มหัวใจหรือช่วยชีวิตอะไร ยังใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่” พญ.โศรยากล่าว และกล่าวต่อไปว่า “เรียนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกท่านทราบ วันนี้(10เม.ย.) ทางจังหวัดปราจีนบุรีได้แถลงข่าวว่า เรามีผู้ป่วยโควิด 19 รายที่ 8 แล้ว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ป่วยรายที่ 6 ที่ได้แจ้งไปแล้ว ขณะนี้ทางจังหวัดได้สอบสวนโรคเพื่อหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและดำเนินการกักกันตัวต่อไปในผู้ป่วยทั้ง 8 รายที่อยู่กับโรงพยาบาลของเรามีจำนวน 6 คนที่อาการอยู่ในเกณ์ปกติ ยกเว้นรายที่ 6 ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ส่วนคนไข้รายล่าสุด(รายที่ 8) มีอาการปอดบวมเล็กน้อย และยังไม่มีผู้ป่วยรายใดเสียชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดและไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก ทางโรงพยาบาลจึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกท่าน งดส่งต่อข้อมูลใดๆที่ทางโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งหรือประกาศทั้งทางตัวอักษรหรือทางรูปภาพในสื่อสังคมออนไลน์ทุกชนิด และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านอย่าลืมปฏิบัติตาม Universal Precaution โดยลงมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัยใส่ Face Shield ตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกัน เราจะผ่านพ้นวิกฤตนั้น และปลอดภัยไปด้วยกัน 2M หมั่นล้างมืองดเที่ยวสังสรรค์ช้อนฉันกินร้อนห่างกัน 2 เมตร”พญ.โศรยากล่าวในที่สุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านบ้านบาก ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี บ้านของมารดาของชายติดเชื้อวัย 37 ปี พบเป็นบ้าน 2 ชั้น หน้าบ้านมีอุปกรณ์เครื่องจักรกลเครื่องมือหนัก อาทิ รถแบ็คโฮ,รถบรรทุกถมดินจอดหน้าบ้าน พบบ้านปิดเนื่องจากถูกกักตัวทั้งหมด ที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
จากนั้นเดินทางต่อไปตลาดเทศบาลตำบลนาปรือใกล้เคียงกับบ้านผู้ติดเชื้อ ร้ายชัยเจริญ พบนางนางละมัย เจริญวงศ์ อายุ 81 ปี 42/1 ม 1 ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี แม่ค้าขายของชำนางนางละมัย กล่าวว่า “ได้ทราบมีผู้ป่วยในชุมชนติดเชื้อโคโรน่าพร้อมข่าวลือว่า ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต ซึ่งยังไม่ทราบข้อเท็จจริง มีความกลัวได้ใส่หน้าการหน้ามัยตลอด พร้อมทำแนวกั้นใช้เชือกฟางกั้นไม่ให้ลูกค้าเข้าใกล้เวลาเข้าร้าน หลังทอนเงินต้องใช้เจลล้างมือทุกครั้งและอาจจะปิดร้านต่อไป”นางนางละมัย กล่าวพร้อมเดินทางไปที่คลินิกประภารักษ์ในตลาดเทศบาลตำบลนาปรือ ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี พบนางสุปราณี จันทวโร อายุ 53ปี กล่าวว่า “ เป็นพี่สาวของนางเพ็ญประภา เทียบคุณ คลินิกประภารักษ์ ปิด จะเปิดวันที่ 17 โดยหมอ (นางเพ็ญประภา เทียบคุณ)ถูก กักตัว 1 คน พร้อม พ่อ –แม่-ลูกจะไม่ไปไหนเลย ซึ่งผลตรวจยังไม่ออกหลังคนป่วยเข้ามารักษา ไม่รู้สึกตระหนกกับกรณีดังกล่าวเนื่องจากป้องกันตนอย่างดี ในการสวมหน้าการอนามัย อยู่ห่างไกลคลินิก ผู้คน กินอาหารร้อน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ” นางสุปราณี กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากการสำรวจคลีนิดทางการแพทย์ทั้ง 3 แห่ง ที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 นายปัญญา ศิลาวษ์ อายุ37 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป (ขับรถแม็คโคร) บ้านเลขที่ 49 หมู่ 5 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เดินทางไปทำการรักษาพบว่า คลินิกปิดทั้งหมด เนื่องจากแพทย์ผุ้รักษาถูกกักกันตัว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/