เชียงใหม่-ผู้ว่าฯสั่งทุกอำเภอ เร่งวิเคราะห์สาเหตุเกิดไฟป่า 

เชียงใหม่-ผู้ว่าฯสั่งทุกอำเภอ เร่งวิเคราะห์สาเหตุเกิดไฟป่า 

ภาพ/ข่าว:พยุงศักดิ์ เทพแก้ว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

     ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการทุกอำเภอ เร่งวิเคราะห์สาเหตุการเกิดไฟป่า นำไปวางแผนการป้องกันและแก้ไขการเกิดไฟป่าในปีต่อไป หลังพบจุดฮอตสปอตปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา

วันนี้ (12 เม.ย. 63) นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมร่วมกับคณะทำงานศูนย์ฯ ฝุ่นควัน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับผู้แทนจาก 5 อำเภอที่เกิดฮอทสปอตสูง เพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่
       นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมามีจุดฮอตสปอตเกิดขึ้นเพียง 18 จุด และเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ 7 อำเภอ เท่านั้น ซึ่งในแต่ละอำเภอมีจุดฮอตสปอตเกิดขึ้นไม่ถึง 10 จุด โดยเกิดมากที่สุด 5 จุด ในอำเภออมก๋อย นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่ไม่พบการเกิดจุดฮอตสปอตต่ำขนาดนี้มาเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์แล้ว จึงถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีที่การเกิดไฟป่าลดน้อยลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยล่าสุด จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการสนับสนุนกองกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาบูรณาการกับชาวบ้านในแต่ละอำเภอ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของกองกำลังภาคประชาชน ในการที่จะออกปฏิบัติการลาดตระเวนและช่วยกันดับไฟป่า ซึ่งเป็นไปตามการปรับแผนมาตรการที่ทางจังหวัดได้วางไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความพร้อมในหลายๆ ด้าน และเชื่อว่าอีกไม่นานสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่จะคลี่คลายได้ในที่สุด
       อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ไฟป่าเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2563 มีการเกิดไฟป่าเพิ่มมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน พบจุดฮอตสปอตเกิดขึ้นกว่า 8,300 จุด ในขณะที่ปี 2562 มีจุดฮอตสปอตเกิดขึ้นประมาณ 4,800 จุด ทั้งนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ฝากให้ทุกอำเภอกลับไปวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเกิดไฟป่าในเขตพื้นที่ของตนเอง รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อที่จะนำมาจัดทำแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในปีถัดไป พร้อมขอให้แต่ละอำเภอที่เกิดเหตุไฟป่า ได้เร่งดำเนินการสืบค้นหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมาย และจะไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
      สำหรับเป้าหมายหลักหลังจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ทางจังหวัดจะเข้าสู่กระบวนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้แต่ละอำเภอทำการสำรวจข้อมูลแล้วว่า ในพื้นที่ของตนเองจะต้องทำการบริหารจัดการเชื้อเพลิงปริมาณมากน้อยเพียงใด พื้นที่ใดจะต้องดำเนินการก่อนหรือหลัง โดยจะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งในวันที่ 15 เมษายนนี้ เพื่อที่จะทำการแบ่งโซนในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งคาดว่าจะต้อใช้อุปกรณ์และเครื่องมือ ทั้งรถบรรทุกน้ำ รถดับเพลิง และอุปกรณ์ดับเพลิงต่างๆ รวมถึงจะต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเป็นจำนวนมาก

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!