สตูล-สส.พิบูลย์ประกาศควักเงินส่วนตัว ซื้อ อุปกรณ์ป้องกันโควิด 19
ภาพ/ข่าว:ชิดชนก พุดทอง
สส.พิบูลย์ประกาศ คนสตูล ต้องปลอดเชื้อ ควักเงินส่วนตัว ซื้อ อุปกรณ์ป้องกันโควิด 19 แจกทุกครัวเรือน ในสตูล พร้อมทำความเข้าใจในการป้องกันตัวเองแก่ กลุ่ม อสม.
นายพิบูลย์ รัชกิจประการ สส.สตูล เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้ ตนเองได้ ดึงเงินส่วนตัวในการจัดซื้อแมส แอลกอฮอล์ และเครื่องตรวจวัด รวมถึงผ้าพัฟ สำหรับ ปิดจมูก โดยตนเองนั้นใช้เงินส่วนตัวทั้งสิ้น ในการจัดซื้ออุปกรณ์ ทั้งหมด มาแจกให้แก่พี่น้อง คนสตูลเขต1 กว่า 3 หมื่นครัวเรือน เพราะตนเอง มีความคิดว่า สุขภาพของพี่น้องประชาชนจะต้องแข็งแรงสู้กับโควิด 19 ให้ ได้ เพราะถึงวันนี้คนสตูล ยังเชื่อว่า ผู้ติดเชื้อในพื้นที่จ.สตูล นั้นยังคงเป็น 0 โดย เขาไม่คิดถึงกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซียเพราะถือว่า เชื้อนั้น ไม่ได้เกิดในสตูล แต่เกิดที่อินโด ดังนั้น ตนเอง จึงได้ นำเงินส่วนตัว ในการจัดซื้ออุปกรณ์ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แมส เจล เอลกอฮอล์ รวมถึงผ้าพัฟ สำหรับไว้ปิดหน้า โดยได้ จัดซื้อมาให้เพียงพอต่อพี่น้องคนสตูล ในพื้นที่เขต 1 ที่มีกว่า 3 หมื่นครัวเรือน จะต้องได้รับอุปกรณ์ ทุกครัว ส่วนเครื่องตรวจวัดไข้นั้น จะมอบให้ ทาง สาธารณะสุขแต่ละพื้นที่ เพื่อไว้สำหรับตรวจวัดให้แก่พี่น้องและได้พบปะ อสม.ทุกกลุ่ม เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงให้ทราบว่า อสม. นั้น ถือว่าเป็นตัวแทนของพี่น้องทุกคนที่จะนำความรู้ไปอธิบายให้แก่ คนใกล้บ้านได้ ร่วมกันดูแล ตัวเอง ใส่แมส รวมถึงการเฝ้าระวัง บุคคลที่กลับจากต่างพื้นที่ เพื่อจะได้ ช่วยกันแนะนำ ว่ากลับมาแล้วจะต้องกักตัว 14 อยู่ อยู่ในสถานที่ที่ทางราชการจัดให้ หรือ สถานที่ที่ ของตนเอง เช่นในสวน กลางทุ่งนา ที่แต่ละคน มีบ้านพักอาศัยอยู่
สส.สตูล ลงเกาะ ดูสถานที่กักตัว 14 วัน พร้อมทำความเข้าใจ พี่น้องประชาชน ช่วยกันดูแล เน้นย้ำ คนเดินทางกลับจากต่างแดนไม่ใช้คนป่วย
นายพิบูลย์ รัชกิจประการ สส.สตูล เขต 1 กล่าวว่า ตนเองและทีมงาน สส.สตูล เขต 1 มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทราบมาว่า บางพื้นที่ ได้มีการคัดค้านไม่ให้ใช้สถานที่กักตัว 14 วัน ของผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเสี่ยงหรือจังหวัดเสี่ยง โดยในวันนี้ได้เดินทางมาดูที่ เกาะ ปูยู เกาะยาว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อบต.ปูยู เขตเมือง สตูล ซึ่ง ทั้ง2 แห่งนี้ได้ จัดเตรียมสถานที่ไว้คอยรองรับแก่บุคคลที่เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย หรือ กลับจาก ต่างจังหวัด ในวันที่ 18 เม.ย. 63 นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลประกาศให้ คนที่อยู่ต่างประเทศสามารถที่จะเดินทางกลับมาได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ ทั้ง 2 แห่ง นี้ ถือเป็นเมือง หน้าด่านที่มีรอยต่อระหว่าง สตูล – มาเลเซีย และจะมีพี่น้อง ไปใช้แรงงาน ในมาเลเซีย ซึ่งคาดว่า เขาคงจะเดินทางกลับมาอย่างแน่นอน และ ยังย้ำให้ พี่น้องเข้าใจว่า คนที่เดินทางกลับมานั้น จะต้องถูกกักตัว 14 วัน เพื่อดูอาการว่า ติดเชื้อโควิด19 มา หรือไม่ หากติดก็จะทำการรักษา ต่อไป หากไม่ติดก็จะ ให้กลับไปพักที่บ้านได้ เราอย่าไปรังเกียจพวกเขา เพราะ พวกเขาเหล่านั้น ก็เป็นญาติพี่น้องของเรา เราต้องช่วยกันให้กำลังใจเขา ไม่รังเกียจเขา ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจ และยินดี ที่จะต้อนรับ ผู้ที่จะเดินทางกลับมาในวันที่ 18 นี้
สส.กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ อบต.ปูยู นั้น เป็นพื้นที่ ที่ น่าจับตามอง เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับ มาเลเชีย โดยเฉพาะทางฝั่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย นั้น ถือว่า ใกล้ มาก หาก แรงงานจะเดินทางโดยว่ายน้ำ หรือ ใช้เรือ หางยาวออกมาก็ได้ ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจแก่พี่น้อง ของเขาว่า การเดินทางเข้ามานั้น จะต้องเดินทางมาอย่างถูกต้อง อย่างเข้ามาเอง โดยไม่บอกกล่าวใคร ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ถูกจับและถูกเสียค่าปรับการหลบหนีเข้าเมือง รวมถึงเอกสารการเดินทางพาสปอร์ต นั้น ก็จะไม่สามารถที่จะใช่ได้อีก เพราะรายชื่อเขาจะตกอยู่ที่ฝั่งมาเลเซียอีก ยังไม่ได้ แจ้งออก ต่อไปการทำเอกสารการเดินทาง ก็ไม่สามารถที่จะทำได้อีก จึงได้ ขอความร่วมมือแก่พี่น้องประชาชนให้ ช่วยกันสอดส่องดูแล บุคคลประเภทนี้ด้วย และประการสำคัญ เพื่อเป็นการป้องกัน การแพร่เชื่อโควิด 19 ที่อาจจะติดมากับ บุคคลเหล่านี้ด้วย
สตูล เปิดบ้านพร้อมรับคนต่างแดนเข้าเมือง เตรียมสถานที่ กัก 40 แห่ง ครอบคลุมทั้งจังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานจากในพื้นที่ จ.สตูล ว่าขณะนี้ ในพื้นที่ จ.สตูล ได้เตรียมสถานที่รองรับ ผู้ที่เดินทางมาจากมาเลเซีย หรือ ประเทศกลุ่มเสี่ยงโควิด 19 ไว้จำนวน 40 แห่ง ครอบคลุมทั้งจังหวัด พร้อมทั้งเปิด ด่านทั้ง 2 แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล สามารถเดินทางเข้ามาได้วันละ 50 คน และด่านตำมะลัง ซึ่งเป็นด่านรอยต่อระหว่าง สตูล – ลังกาวี , สตูล – รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ก็สามารถที่จะเดินทางเข้ามาได้วันละ 50 คน แต่การเดินทางเข้ามานั้น จะต้องมีเอกสาร ตามที่สถานทูต กำหนด ตั้งแต่ใบรับรองแพทย์ เอกสารจากสถานทูต และรายชื่อ ที่ได้แจ้งเข้ามาว่าจะเดินทางเข้ามาวันไหน โดยพาหนะ ชนิดใด ก็จะมีการแจ้งเข้ามา ซึ่งตอนนี้ ทางด่านวังประจันได้มีการแจ้งรายชื่อ เข้ามาเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ ทางด่านตำมะลัง ซึ่งเป็นด่านที่จะต้องเดินทางเข้ามาทางเรือ แต่ปัญหา การเดินทางเข้ามานั้น สามารถเดินทางเข้ามาได้ ครั้งละ 50 คน ทำให้เกิดปัญหาในการ โดยสารเรือ เนื่องจากไม่คุ้มกับ ค่า เรือ ที่จะใช้เดินทาง ทำให้ไม่สามารถสรุปได้ว่า จะเดินทางกันอย่างไร
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/