เชียงใหม่-ฝนตกเมื่อวานส่งผลไม่มีจุด Hot Spot

เชียงใหม่-ฝนตกเมื่อวานส่งผลไม่มีจุด Hot Spot

ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

    ฝนตกเมื่อวานที่ผ่านมาส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่ไม่มีจุด Hot Spot แม้แต่จุดเดียว เตรียมปิดศูนย์บัญชาการฯ สิ้นเดือนนี้ กลางเดือนหน้ารองนายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางมารับฟังข้อสรุปการถอดบทเรียน
     นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมคณะทำงานศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยพบว่าเป็นวันแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่ มีจุด Hot Spot แม้แต่จุดเดียว เมื่อวานที่ผ่านมา เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนักในหลายอำเภอ โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ จะมีฝนตกจนถึงวันที่ 28 เมษายน 2563 หลังจากนั้นระหว่างวันที่ 1-15 พฤษภาคม 2563 อากาศจะกลับมาร้อนและแล้ง ดังนั้นต้องมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยเฉพาะพื้นที่ที่กำหนดให้เผาได้เน้นหนักที่โซนใต้ของจังหวัดและโซนเหนือบางอำเภอ ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตก อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์หรือไถกลบแทน โดยคาดการณ์ว่าเมื่อปรากฏการณ์เอลนิลโญ่หมดไป ปีนี้ประเทศไทยจะต้องเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์ลานิญญ่า ซึ่งต้องเตรียมรับมือภาวะอุทกภัย ต้องสำรวจตรวจสอบระบบเตือนภัยที่ติดตั้งไว้แล้ว 243 แห่งทั้งจังหวัด ให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและพื้นที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม
         ทั้งนี้จากสถานการณ์หมอกควันที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งหน่วยบินของกองทัพอากาศและศูนย์ส่วนหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะปิดศูนย์ในวันที่ 30 เมษายน 2563 นี้ โดยในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จะทำการถอดบทเรียนระดับจังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 19-20 จะถอดบทเรียนระดับประเทศที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเดินทางมาประชุมในวันที่ 20 พฤษภาคม และพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมารับฟังข้อสรุปถอดบทเรียนพร้อมปลูกต้นไม้เนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติในวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 โดยวันนี้ช่วงบ่าย นายคมสัน สุวรรณอัมพา พร้อมด้วยพันตำรวจเอกปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ พร้อมให้มีการนำโดรนขึ้นบินสำรวจพื้นที่อำเภอแม่แจ่มและอำเภอสะเมิง เพื่อเก็บข้อมูลประกอบการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรแม่แจ่มหาหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เช่นเดียวกับที่อำเภออมก๋อย และเภอเชียงดาว ก็ให้ขยายผลจับกุมผู้ลักลอบเผาเช่นกัน โดยแจ้งทุกสถานีตำรวจให้ประสานกับศูนย์อำเภอทุกอำเภอเพื่อทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ตลอดปีนี้ มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว 1352 คดี

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!