ปราจีนบุรี-วัดรัตนเนตรตาราม พบนักท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
หลังหยุดช่วงโควิด-19 ระบาด วัดรัตนเนตรตาราม หรือ วัดล้านหอย เปิดให้ นทท.- พุทธศาสนิกชนชมประติมากรรมจากหอยนับล้าน ๆ ตัว – ชมทุ่งลานนาล้านหอย แหล่งสอนเกษตรพึ่งตนเองแล้ว พบนักท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก
วันนี้ 26 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงาน จากสถานการณ์โรคติดต่อโควิด-19 ที่ระบาด สถานที่ท่องเที่ยว ที่วัดรัตนเนตรตาราม หรือ วัดล้านหอย ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี อันเป็นวัดที่เลื่องชื่อระดับประเทศ ที่พุทธศาสนาสนิกชนศรัทธานำเอาเปลือกหอยนานาชนิดนับเป็นล้านๆ ตัว ซึ่งมากที่สุดในประเทศ มาประดับตกแต่งในงานสถาปัตยกรรมต่าง ๆ อาทิ หอพระแก้ว 3 ฤดู และประติมากรรมทางพระพุทธศาสนา พระพุทธรูปปางต่าง ๆ,พญานาค อย่างสวยงามตระการตาได้ปิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน ล่าสุดทางวัดรัตนเนตรตาราม หรือ วัดล้านหอย ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้แล้ว พร้อมให้แม่ค้าได้เข้ามาค้าขายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มี อาหารพื้นบ้าน ทั้งขนมจีน,ยาสมุนไพรพื้นบ้าน,ขนม – ของขบเคี้ยว – เครื่องดื่ม ให้แม่ค้าชาวบ้านรอบ ๆ วัด ได้เข้ามาค้าขาย จำหน่ายบริการให้กับนักท่องเที่ยว ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ท้องถิ่น ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศที่เริ่มหลั่งไหลมาพักผ่อนบรรยากาศเริ่มคึกคัก
พบนายจำปี โสดา อายุ 72 ปี ไวยาวัจกรวัด กล่าวว่า วัดรัตนเนตรตาราม หรือ วัดล้านหอย ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวไหว้พระ-ขอพรเพื่อเป็นสิรมงคล พร้อม ๆชมความงดงามประติมากรรมจากเปลือกหอยนับล้าน ๆ ตัว ที่นำมาประดับตกแต่งอย่างสวยงาม จากนั้นยังมาพักผ่อนศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง “ลานนาล้านหอย” ที่ทางวัดได้จัดพื้นที่ แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้ผู้คนได้มาพักผ่อน แล้วเกิดความคิดนำกลับไปประยุกต์ใช้ทำมาหากิน ประหยัดรายจ่าย มีวิวทิวทัศน์ กระท่อมนั่งรับโอโซนอันดับ 7 ของโลกที่สวยงามตามท้องทุ่ง บนพื้นที่รวมกว่า 13 ไร่เศษ นายจำปี กล่าว
ขณะที่ พระอธิการ สิริลักษณ์ ธีรวังโส อายุ 46 ปี พรรษาที่ 21 เจ้าอาวาสวัดรัตนเนตรตาราม กล่าวว่า “ความเป็นมาของงานศิลปะในพุทธศาสนา ประติมากรรมประดิษฐ์จากเปลือกหอย นับล้าน ๆ ตัว ที่โด่งดังไปทั่วโลก เกิดจากเมื่อประมาณปี 2557 หลังจาก มีการนำเปลือกหอยนานาชนิดที่ญาติโยมบริโภคแล้ว มาประดับตกแต่งในงานของสถาปัตยกรรม คือ บริเวณหอประดิษฐานพระแก้วมรกต 3 ฤดู ได้นำเปลือกหอยมาตกแต่งทั้งภายในและนอกอาคาร , นำมาประดับงานประติมากรรมพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมถึงเกล็ด พญานาค ที่ได้นำเอาเปลือกหอยนานาชนิด อาทิ หอยแมลงภู่, หอยเชลล์, หอยขม, หอยสังข์, หอยนางรม, หอยนางฟ้า จำนวนมากเกินกว่าล้าน ๆ ตัว นับว่ามากที่สุดในประเทศไทย หรือ มากที่สุดในโลก มาประดับตกแต่งอย่างสวยงาตระการตา ตามใต้ฐานพระ – สิ่งก่อสร้างโดยรอบ อย่างประณีตแสดงถึงความร่วมมือ พลังศรัทธา ในพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชน”
พร้อมกันนี้ วัดรัตนเนตรตาราม หรือ วัดล้านหอย ได้เพิ่ม ที่พักผ่อน ท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง หลังจากที่พุทธศาสนิกชน – ญาติโยมได้นมัสการ เที่ยวชมพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ในวัดเรียบร้อยแล้ว ที่ล้วนแต่ประดับตกแต่งด้วยเปลือกหอยทั้งสิ้น ทั้ง นมัสการ พระปางไสยาสน์, ชมพระพุทธเจ้าน้อย, พระศรีอริยเมตไตรย,หอพระแก้วมรกตสามฤดู,ชมหินแกะสลักพุทธประวัติ, ถ้ำพระราหูที่ภายในประดิษฐานพระปางนาคปรก, สักการะ 3กษัตริย์มหาราช (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว), นมัสการหลวงพ่อสนอดีตเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย แล้ว
ล่าสุดนี้ได้จัดทำ “ลานนาล้านหอย” ขึ้น ที่ด้านท้ายวัด ให้ญาติโยม นักท่องเที่ยว ได้พักผ่อนสูดอากาศธรรมชาติเย็นสบายได้พักผ่อนในทุ่งนา โดยสร้างทางเดินไม้ไผ่ทอดตัวยาวลงไปในทุ่งนาข้าว ที่ในขณะนี้เพิ่งไถหว่านเป็นแปลงข้าวนาปรัง มีซุ้มไม้ไผ่เป็นวิวให้พักร้อน บันทึกภาพ ให้ได้สบายทั้งกาย ใจ”
“นอกเหนือจากการพักผ่อน ท่องเที่ยว ยังเป็นการส่งเสริม หลักเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยได้มีการก่อสร้างเรือนพิพิธภัณฑ์เครื่องมือการเกษตร ที่จะนำเครื่องมือการทำนา หัตถกรรมการเกษตร เรือนไม้ไผ่ จัดแสดงนิทรรศการการทำนา มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำลังทรงเกี่ยวข้าวที่โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี อันเป็นความภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวนาปราจีนบุรีทุกหมู่เหล่ามิรู้ลืม”
นอกจากชมท้องทุ่งนาแล้ว รอบๆยังสอนหลักเกษตรผสมผสาน ที่ใช้พื้นที่ทุกส่วนให้เกิดประโยชน์ ในการพึ่งพาตนเอง ที่นำผลผลิตไปกิน-ใช้ ลดค่า ใช้จ่ายในครอบครัว ไม่ต้องไปซื้อหา เหลือสามารถนำไปขายสร้างรายได้เพิ่มอีก อาทิ พื้นที่ พื้นที่ปลูกข้าว, สระหรือแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรใช้เลี้ยงปลา,เลี้ยงกบนา,เลี้ยงหมู พื้นที่สร้างที่พักอาศัย, การปลูกพืชสวนครัว ฟัก,แฟง,น้ำเต้า,ขิง,ข่า,ตะไคร้,กระเพรา,พริก, ไม้ดอกไม้ประดับ อันเป็นการได้ประโยชน์ทางการศึกษาหลักเกษตรแบบพึ่งพาตนเอง หรือมาพักผ่อนแล้วสามารถนำแนวคิดทฤษฎีใหม่กลับไปใช้ ให้พื้นที่เกิดประโยชน์สูงสุด ในการพึ่งตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโรคโควิด-19 ที่ผ่านมาเป็นสิ่งยืนยัน “การพึ่งพาตนเอง” การมีข้าว –อาหาร –พืชผักไว้กินเอง เป็นสิ่งสำคัญ พื้นที่ไม่ปล่อยให้ว่างเปล่าด้วย พร้อมชมบรรยากาศ ทุ่งนาในธรรมชาติท้องทุ่งเย็นสบาย ได้ธรรมชาติท้องทุ่งนา มีนกปากห่างนับร้อยๆ ตัวลงมาใกล้ๆให้ชม ให้สุขสดชื่นกลับไป”พระอธิการสิริลักษณ์กล่าว
และกล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังญาติโยมท่องเที่ยวเสร็จแล้ว ในขณะนี้ทางวัดกำลังก่อสร้างเมรุ ซึ่งกำลังจาดแคลนงบประมาณ หากประสงค์ร่วมทำบุญกุศล สามารถร่วมทำบุญได้ ตามศรัทธา”พระอธิการสิริลักษณ์กล่าว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/