อ่างทอง-ดญ.วัย10ปีเม้นท์เพจโควิดฯขอข้าวสาร
ภาพ/ข่าว:วันวิสาข์ จันทวร
ดญ.วัย 10 ขวบครอบครัวยากจนเข้าไปเม้นท์ขอความข้าวสารจากเพจโควิดไทยแลนด์ หลังครอบครัวประสบอุบัติเหตุ จนพ่อผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวทำงานไม่ได้ กลัวครอบครัวอดตาย มีผู้ใจบุญเห็นข้อความประสานกู้ภัยอ่างทองตรวจสอบ ก่อนหาทางช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเลขที่ 169/ก หมู่ที่ 5 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หลังทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวได้มีเด็กหญิงยอดกตัญญูได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังเพจโควิดไทยแลนด์ โดยขอข้าวสารอาหารแห้งเนื่องจากพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถทำงานได้ ก่อนที่จะได้รับการประสานให้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น โดยเมื่อเดินทางไปถึงพบเด็กหญิงเอมวิกา หรือน้องบิว อายุ 10 ปี เด็กหญิงยอดกตัญญูที่เป็นผู้ติดต่อขอรับความช่วยเหลือ กำลังยืนเก็บผ้าและทำงานบ้านต่าง ๆ อยู่กับครอบครัว
เมื่อน้องบิวเห็นผู้สื่อข่าวก็เดินทางมาต้อนรับ และพาไปดูห้องพักของครอบครัวตนเอง โดยดูจากสภาพแล้วครอบครัวดังกล่าวนั้นมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก อาศัยอยู่ในห้องใต้ถุนบ้านของญาติคนหนึ่ง บริเวณหน้าห้องมีโต๊ะไม้ตั้งไว้ทำเป็นห้องครัว มีการเจาะประตูเล็กๆ ทำเป็นทางเข้าห้อง โดยห้องมีขนาดกว้างประมาณ 2 เมตร ยาวประมาณ 3 เมตร พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วยนายวชิระ อายุ 28 ปี พ่อของน้องบิว นางสาวอรสา อายุ 25 ปี แม่ของน้องบิว เด็กชายธนากร อายุ 9 ปี และเด็กชายธนพล อายุ 2 ปีครึ่ง น้องชายของน้องบิว
จากการสอบถามน้องบิว กล่าวว่า ครอบครัวตนมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวตนมีพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำงานก่อสร้างหาเงินเลี้ยงครอบครัว ต่อมาพ่อ แม่ และน้องคนเล็กได้เกิดประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน ได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล พอออกจากโรงพยาบาลมาพ่อตนก็ไม่เป็นปกติ ไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ครอบครัวซึ่งยากจนอยู่แล้วได้รับความเดือดร้อนมากขึ้นไปอีก ตนสงสารพ่อแม่และน้อง ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร ไปเห็นในโทรศัพท์ที่มีคนเขาแชร์เพจโควิดเอาไว้ ตนจึงไปคอมเม้นท์ขอความช่วยเหลือ โดยขอข้าวสารอาหารแห้ง มาเพื่อจุนเจือครอบครัว ให้ครอบครัวอยู่รอด ซึ่งหลังจากคอมเม้นท์ไปก็ไม่รู้จะติดต่อกับเขาอย่างไรต่อ เนื่องจากโทรศัพท์ตนก็ไม่ค่อยดี จนกระทั่งมีคนโทรมาถามในวันนี้
น้องบิว กล่าวต่อว่า ตอนที่พ่อแม่อยู่โรงพยาบาลตนสงสารพ่อมาก เนื่องจากพ่อเจ็บเยอะ บางทีพ่อก็ออกอาการดิ้นทุรนทุราย ตนก็ต้องคอยวิ่งดู โดยวิ่งดูทั้งพ่อทั้งแม่ และน้อง สำหรับการที่ไปขอความช่วยเหลือในเพจโควิดไทยแลนด์นั้น ก็อยากได้ข้าวสารอาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง และนมกล่องให้น้อง ส่วนเรื่องอุปกรณ์การเรียนตอนนี้ตนเรียนอยู่ชั้น ป.4 ส่วนน้องตนก็เรียนอยู่ ป.3 คงไม่มีเงินที่จะซื้อชุดนักเรียนใหม่ แต่ก็ยังดีใจที่ชุดเก่ายังใส่ได้ 2 ชุด
ด้านนางสาวอรสา แม่ของน้องบิว กล่าวว่า ครอบครัวตนมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก มีลูก 3 คน มีน้องบิวเป็นคนโตอายุ 10 ขวบ น้องกร คนกลาง อายุ 9 ขวบ และน้องเปา คนเล็ก อายุ 2 ขวบครึ่ง ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ก่อนหน้านี้เคยอยู่ชุมชนแห่งหนึ่งใน อ.ป่าโมก แต่ถูกไล่ที่เลยต้องมาอาศัยอยู่บ้านญาติ โดยขอทำห้องอยู่ใต้ถุน ปกติครอบครัวตนจะมีนายวชิระ สามีเป็นหัวหน้าครอบครัว ตนเลี้ยงลูกคนเล็กอยู่บ้าน สามีเป็นกรรมกรก่อสร้าง แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ตน สามี และลูกคนเล็กได้ขี่จักรยานยนต์ไปประสบอุบัติเหตุ จนเข้าโรงพยาบาลทั้ง 3 คน โดยสามีตนนั้นมีอาการหนักสุด โดยได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง รักษาตัวอยู่พักใหญ่ ตอนนั้นครอบครัวก็ลำบากไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเลย เนื่องจากรถไม่มี พรบ. จึงได้ไปขอความช่วยเหลือใช้ พรบ.จากรถคู่กรณี แต่ก็ไม่พอจ่ายทางโรงพยาบาล แต่ตนนั้นได้การเยียวยาจากรัฐบาลในเรื่องโควิด-19 ได้เงินเดือนละ 5,000 บาทในเดือนแรกตนจึงได้นำเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ส่วน 2 เดือนต่อมาก็ได้ไว้ใช้จ่ายบ้าง และไปใช้หนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางตอนที่สามีรักษาตัวอยู่ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าสามีตนหายแล้วน่าจะกลับมาทำงานได้ แต่ที่ไหนได้พอหายมากลับมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิม มีอาการเบลอ ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ ชอบอยู่คนเดียว และบางทีทำอะไรก็ไม่ค่อยรู้ตัว พอไปสมัครงานก็ไม่มีคนเขารับทำงาน เขาก็ได้แต่บอกว่าให้หายก่อนค่อยมาทำงาน ซึ่งตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลตนสงสารน้องบิวมาก เนื่องจากทั้งตนและทั้งสามีนอนโรงพยาบาลทั้งหมด ก็ได้น้องบิวที่คอยวิ่งดูแล โดยดูแลทั้งพ่อ แม่ และน้อง
นางสาวอรสา กล่าวต่อว่า ตอนนี้เงินเยียวยาโควิดที่ได้รับก็เดือนสุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่รู้จะเอาไงต่อ แต่ก็ยังดีที่ยังมีข้าวสารเหลืออยู่ 5 กก. และมีมาม่าที่มีคนเขาเอามาให้ไว้ 1 กล่อง และไข่ พอประทังชีวิตไปก่อน ซึ่งตนปกติก็หุงข้าวแค่วันละครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งหากอาหารที่มีหมดลงก็คงต้องบากหน้าอาศัยญาติ ขอแค่ลูกมีกิน
ส่วนนายวชิระ หัวหน้าครอบครัวนั้น ก็เดินเหินไปไหนมาไหนได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ระบบความคิดความอ่านยังไม่เหมือนเดิมนัก ยังมีอาการเบลอๆ จำอะไรไม่ได้ ชอบอยู่คนเดียว พอผู้สื่อข่าวเข้าไปถาม ก็กล่าวว่า จริงๆ ตนก็อยากไปทำงาน แต่ยังไม่มีคนรับทำงานเพราะยังไม่หายดี เบลอๆ บางทีก็จำอะไรไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับน้องบิวนั้น เป็นเด็กหญิงที่มีความกตัญญู เป็นเด็กเรียนดี รักครอบครัว ในแต่ละวันเวลาว่าง ๆ ไปไหนมาไหนก็จะเก็บขวดพลาสติกมารวมไว้ที่บ้าน และรอขาย โดยก็จะขายได้ครั้งละ 20-30 บาท เมื่อขายได้ก็จะเอาเงินไปไว้ให้แม่ใช้จ่ายในครอบครัว
สำหรับผู้ใจบุญอยากบริจาคเงินช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่นางสาวอรสา กาลึกสม โทร. 088-6150911 หรือเบอร์ 080-8028629 หรือบริจาคผ่านบัญชี ธนาคารออมสิน สาขาป่าโมก เลขที่บัญชี 020217460250 ชื่อบัญชีนางสาวอรสา กาลึกสม
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/