อ่างทอง-ครอบครัวแม่เฒ่าวัย90สุดรันทดวอนสังคมช่วย
ภาพ/ข่าว:วันวิสาข์ จันทวร
ครอบครัวแม่เฒ่าวัย90สุดรันทดลูก2คนป่วยหากินไม่ได้ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัววอนสังคมช่วย
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (14 มิ.ย. 63) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทองให้ช่วยไปดูความยากลำบากของครอบครัวของนางบุญเรือน นิ่มนวล อายุ 90 ปี ที่บ้านเลขที่ 232/ก หมู่ที่ 5 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เนื่องจากที่บ้านของนางบุญเรือนนั้น กำลังได้รับความลำบาก เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีลูกชาย 2 คน คนโต อายุ 65 ปี พิการทางสมอง ไม่สามารถทำมาหากินได้ และลูกชายคนเล็กที่เคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ได้เกิดป่วยเป็นโรคไต ต้องล้างไตทุกวัน ไปทำงานไม่ได้ ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว ลำบากมาก ซึ่งชาวบ้านเผยเป็นครอบครัวที่ลำบากที่สุดในหมู่บ้าน
หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบบ้านดังกล่าวเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง มีลักษณะเก่า ทรุดโทรม เสาปูน เสาไม้ผุ ต้องมีการปะดามเอาไว้ บันไดขึ้นบ้านมีลักษณะเล็ก และไม่แข็งแรง หน้าบ้านมีประตูไม้ปิดเป็นรั้วหน้าบ้าน เนื่องจากสุนัขดุ ที่บ้านพบนางบุญเรือน นิ่มนวล อายุ 90 ปี เจ้าของบ้าน เดินอยู่ด้านหลังบ้าน นายสมจิตร์ นิ่มนวล อายุ 59 ปี ลูกชายคนโตของนางบุญเรือน เดินอยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน ต่อมานายชลอ นิ่มนวล อายุ 59 ปี ลูกชายคนเล็กของนางบุญเรือน ได้เดินมาต้อนรับ ผู้สื่อข่าวจึงทำการสอบถาม
จากการสอบถามนายชลอ กล่าวว่า บ้านของตนมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 3 คน คือนางบุญเรือน แม่ของตน นายสมจิตร์ พี่ชายของตน และตน ก่อนหน้านี้ตนเป็นหัวหน้า ครอบครัว ดูแลแม่และพี่ โดยตนทำงานรับจ้างเป็นช่างเชื่อมเหล็ก ต่อโครงหลังคาต่าง ๆ มีรายได้เดือนละกว่า 1 หมื่นบาท พอเลี้ยงครอบครัวให้อยู่กันได้แต่ต่อมาตนได้เกิดป่วยเป็นโรคไต ต้องล้างไตทุกวัน ๆ ละ 3-4 ครั้ง และต้องไปหาหมอเป็นประจำทุกเดือน ทำให้ตนไม่สามารถไปทำงานได้ ตนรักษาตัวอยู่ระยะหนึ่ง ก็กลับไปทำงาน แต่ปรากฎว่าสายยางที่เจาะใส่ไว้สำหรับล้างไตนั้นเกิดบิด คดงอ ทำให้ต้องไปผ่าใหม่ ทำให้ร่างกายทรุดลงกว่าเดิม ประกอบกับมีปัญหาเรื่องต้อที่ตาขึ้นมาอีก ทำให้ตนไม่สามารถไปทำงานได้ ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว ชีวิตต้องกินต้องใช้ ไหนจะแม่ ไหนจะพี่ เงินทองที่เคยมีบ้างก็หมดไป ก็ต้องอาศัยเงินคนพิการของพี่ชาย และเงินชราของแม่มาใช้จ่ายในบ้าน ก็ไม่พอ ที่บ้านจึงตัดสินใจเอาที่บ้านไปจำนองเอาเงินมาใช้จ่ายประมาณเกือบ 4 หมื่นบาทซึ่งตนก็หวังว่าจะได้ทำงานหาเงินมาใช้หนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถไปทำงานได้ เงินก็ไม่มีใช้ต้องจำใจเอารถจักรยานยนต์ที่มีอยู่คันหนึ่งไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย ก็ต้องแบ่งเงินของแม่กับของพี่ไปจ่ายหนี้สินที่มี ตนอึดอัดใจมาก แต่ทำไรไม่ได้ คนเคยทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และตอนนี้กลับกลายเป็น 1 ภาระของครอบครัว ไม่รู้จะทำอย่างไร จะยื่นขอรับเงินเยียวยาโควิด ก็ไม่มีโทรศัพท์แบบเขา ไปติดต่อตรงกับทางธนาคารฯ ก็ไม่รู้เลยว่าจะอย่างไร เรื่องยังเงียบ ๆ
นายชลอ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ได้เพื่อนบ้านที่เขาสงสารไปเอาข้าวที่วัดมาให้บ้าง แบ่งอาหารมาให้บ้าง มีเทศบาลเอาข้าวสารอาหารแห้งมาให้บ้างเป็นบางคราว ทุกวันนี้ก็ภาวนาว่าเมื่อไหร่จะหาย อยากกลับไปทำงาน อยากไปหารายได้ ไม่อยากนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แบบนี้ บ้านช่องก็ชำรุดทรุดโทรมลงไปทำไรไม่ได้เลย ส่วนพี่ชายตนนั้นมีอาการทางประสาทมา 20 กว่าปีแล้ว บางครั้งก็จะมีอาการเอะอะโวยวาย ด่าทอชาวบ้านบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่หิวข้าว ชาวบ้านแถวนี้เข้าใจและไม่มีใครถือสา แต่ก็ถือว่าโชคดีที่แม่ของตนถึงแม้จะอายุเยอะแล้ว ไม่ค่อยเป็นภาระเท่าไหร่ เดินเหินได้ แต่ก็ต้องคอยระวัง ในเรื่องของการโรคไตของตนนั้นได้สิทธิรักษา 30 บาท ของโรงพยาบาลอยู่แล้ว ซึ่งโรงพยาบาลสอนให้ตนล้างไตเองที่บ้าน โดยให้ล้างวันละ 4 รอบ ส่วนอุปกรณ์และน้ำยาต่าง ๆ ทางโรงพยาบาลก็จะมีรถมาส่งให้เป็นประจำทุกเดือน จะมีก็แค่ทำมาหากินไม่ได้ที่เป็นเรื่องหลักของตนขณะนี้
ด้านนางสำรวล เรือนแจ้ง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ที่ 5 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตนเห็นครอบครัวนี้มาตั้งแต่แรก ๆ สมัยที่นายชลอทำมาหากินได้ ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ดูแลบ้าน หาเรื่องแม่ เลี้ยงพี่ชายได้โดยไม่ต้องให้ใครลำบาก แต่ต่อมาเกิดเป็นโรคไตขึ้น ร่างกายอ่อนแอลง ทำงานไม่ไหว เคยฝืนไปทำงานก็ทรุดหนักกว่าเดิม จึงต้องหยุดอยู่บ้าน ตนก็สงสาร มีกับข้าวกับปลาก็แบ่ง ๆ กันไปกินบ้าง ซึ่งครอบครัวนี้ก็มีนิสัยขี้เกรงใจ นิสัยดี นอบน้อมถ่อมตน มีแต่คนรักใคร่ แต่ก็อย่างว่าแหละ รายได้ไม่มี ต่อไปจะทำอย่างไร อยากให้สังคมช่วยเหลือ ใครมีก็ช่วยแบ่งปัน ถ้าดูแล้วทั้งหมู่บ้านก็จะมีครอบครัวนี้แหละที่น่าสงสารที่สุด และลำบากที่สุด
ส่วนนายสยาม ศิลป์ประดิษฐ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 หมู่ที่ 5 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตนเห็นครอบครัวนี้แล้วสงสาร น่าสงสารมาก ในทุก ๆ วันตนก็จะขี่รถจักรยานยนต์ไปเอากับข้าวที่วัดมาให้ บางวันไปทันก็ได้มา บางวันไปไม่ทันก็ไม่ได้ ก็ต้องมาหาซื้อ หรือดูบ้านไหนที่มีแบ่ง ๆ ไปให้ รันทดใจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่พูดคุยกับชาวบ้าน ได้มีครอบครัวของนายมานพ บุตรจินดา ที่ให้น้องชาย และลูกสาว มาเยี่ยมเยียน นำเงินสดจำนวน 4,000 บาท มามอบให้ พร้อมไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ นอกจากนั้น ยังทราบว่าวันนี้พระที่วัดไม่อยู่ ไม่มีอาหารมาให้บ้านของนายชลอ จึงได้ตัดสินใจเดินไปร้านค้าเพื่อสั่งให้ทางร้านทำอาหารมาให้บ้านนี้ 2 ถุง และซื้อไข่ไก่ 60 ฟอง น้ำดื่ม 2 แพ็คมอบให้เพิ่มเติมอีก ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า รู้ข่าวจากทางสมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง จึงได้เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือ ซึ่งทางครอบครัวก็ชอบช่วยเหลือ และชอบทำบุญอยู่แล้ว โดยเมื่อมาเห็นก็พบเลยว่าครอบครัวนี้น่าสงสารจริงๆ และหากมีโอกาสจะซื้อข้าวสารมาให้อีก สำหรับผู้ใจบุญท่านใดอยากให้ความช่วยเหลือสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่นายชลอ นิ่มนวล โทร. 097-0240194 หรือบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาป่าโมก เลขที่บัญชี 119-0-10949-2 ซึ่งเป็นของนายชลอ นิ่มนวล
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/