นนทบุรี-ลุง-ป้า สุดช้ำค้ำประกันรถ สุดท้ายบ้านถูกยึด

นนทบุรี-ลุง-ป้า สุดช้ำค้ำประกันรถ สุดท้ายบ้านถูกยึด

ภาพ/ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ

                 ลุง-ป้า สุดช้ำค้ำประกันรถ สุดท้ายบ้านถูกยึด  คนซื้อบอกไม่รู้จะทำงัย ยืนยัน ไม่หนี ไม่มี แต่หาเงินไม่ได้ โร่ร้องทนายดังช่วยเหลือ

                  เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 มิ.ย.63 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสามารถ โพธิประสิทธิ์ อายุ 58 ปี นางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี พักอยู่เลขที่ 32 หมู่ 4 ต.ท่าค้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยเหลือหลังจากสามีไปเซ็นค้ำประกันซื้อรถให้กับเพื่อนของเพื่อนแล้วเจ้าของรถไม่ผ่อนส่งจนตนและสามีถูกยึดบ้านที่อยู่ในปัจจุบันขายทอดตลาดไปและเจ้าของใหม่เร่งให้ย้ายออกไม่งั้นแจ้งตำรวจจับ
               นายสามารถ เล่าว่าตนทำงานเป็นพนักงานแผนกดับเพลิงอยู่ที่ อบต.ท่าค้อ ได้รับการขอร้องจากผู้ใหญ่ที่นับถือกันให้ช่วยค้ำประกันในการซื้อรถปิคอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์เทา โดยผู้เช่าซื้อคือนายภาดา ลิมรุ่งเรือง ซึ่งทำงานดี มีบ้านอยู่เป็นหลักแหล่ง แต่จำเป็นต้องใช้รถไปทำธุรกิจด้วยความที่สงสารเลยเซ็นค้ำประกันให้กับนายภาดาไปเมื่อปี 2555 แต่พอผ่านไปไม่นานก็ขาดส่งค่างวดจนรถถูกยึด ตนเองและนายภาดาถูกฟ้องในส่วนต่างที่ขาดหายไปในตัวรถอีก 80,000 บาท เมื่อปี 2561 หลังจากนั้นตนก็สอบถามเรื่องดังกล่าวกับนายภาดาอีกก็บอกว่าตอนนี้เจรจาประนอมหนี้กันแล้วไม่ต้องห่วง
                กระทั่งมาเมื่อวันที่ 30 ม.ค.63 มีทนายชื่อตั้มขับรถมาที่บ้านบอกว่าบ้านของตนเขาซื้อขายทอดตลาดมาแล้ว ถ้าจะอยู่ต่อให้ซื้อคืนในราคา 800,000 บาท ตนบอกไปว่าไม่มีเงินและเพิ่งทราบว่าบ้านถูกขายไปแล้วทนายตั้มเลยบอกว่าจะช่วยเหลือขายคืนให้ ในราคา 300,000 บาท แต่ต้องภายในเดือนนี้นะ ไม่งั้นต้องเป็น 500,000 บาท ตนเครียดมากไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมาจนบางครั้งอยากฆ่าตัวตาย ภรรยาจึงชวนให้มาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์
                 ขณะที่นางอำไพเอง กล่าวเพิ่มเติมว่า สามีไปเซ็นค้ำประกันโดยที่ตนเองไม่รู้เรื่องและสามีก็ไม่รู้จักคนเช่าซื้อด้วย ซึ่งบ้านที่ตนอยู่เป็นบ้านไม้สองชั่นเนื้อที่ 96 ตารางวาซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษและเป็นชื่อของตน แต่วันนี้กลับถูกขายทอดตลาดและต้องมาถูกไล่ออกจากบ้านทั้งๆที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับและเสียใจมากที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ต่อจากนี้ไปตน สามี ลูกชาย ลูกสะไภ้ และหลาน จะไปอยู่ที่ไหนกันก็ยังไม่รู้เลย
ด้านนายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีทนายคอยดูแลอยู่แล้วและมีการยื่นเรื่องคัดค้านการขายทอดตลาดตาม ป.วิแพ่ง ในเรื่องของการส่งหมายที่ไม่มีการส่งหมายมาให้เจ้าของทรัพย์ทราบก่อน. ส่วนในขั้นตอนการบังคับคดีหากเจ้าหนี้พบว่าลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกันมีอสังหาริมทรัพย์ก็จะต้องตั้งเรื่องอายัดบังคับคดีทันที่ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าจะค้ำประกันใครควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนไม่ใช้คิดแต่ว่าค้ำๆไปก็จะเกิดปัญหาเหมือนกับกรณีนี้ที่ลุงกับป้าจะต้องมาเสียบ้านที่อยู่มาทั้งชีวิต หลังจากนี้จะดูข้อกฎหมายว่าจะช่วยเหลือในเรื่องใดได้บ้าง

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!