ราชบุรี-แม่ย่าตะเคียนทองวัดช่องลมเข้าสิงร่างคนกลางงาน

ราชบุรี-แม่ย่าตะเคียนทองวัดช่องลมเข้าสิงร่างคนกลางงาน

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

                  อึ้งกันทั้งงาน แม่ย่าตะเคียนทองวัดช่องลมเข้าสิงร่างคนกลางงานแก้บน

                    วันที่ 26 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีการนำละครรำมาแก้บนที่ศาลแม่หญิงทับแก้ว กุมารทองอินทนินท์ ที่บริเวณหลังวัดช่องลม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงเดินทางไปสังเกตุการณ์พบ นางน้ำผึ้ง รอดเรือนคุณ อายุ 42 ปี และนางกฐิลา รอดเรืองคุณ อายุ 45 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน พร้อมกลุ่มชาวบ้านกว่า 20 คน กำลังทำพิธีแก้บน ด้วยการนำอาหารคาวหวาน และละครรำ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แม่หญิงทับแก้ว และกุมารทองอินนนท์ เพื่อเป็นการแก้บน หลังนางน้ำผึ้งและนางกฐิลา และชาวบ้านถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลหลายงวดติดต่อกัน ซึ่งศาลดังกล่าวชาวบ้านในพื้นที่และนอกพื้นที่ ต่างเชื่อว่า มีดวงจิตของพ่อปู่ดำ แม่ย่าตะเคียนทอง และกุมารทองอินทนินท์ สิงสถิตอยู่ที่ศาลดังกล่าว
                 โดยศาลแม่หญิงทับแก้ว กุมารทองอินทนินท์ เป็นศาลที่ทางวัดช่องลม สร้างขึ้นมาให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ หลังได้ตัดต้นตะเคียนทองคู่ ที่มีอายุกว่า 800 ปี เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 คนโอบ ที่ยืนต้นตาย นำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร “หลวงพ่อแก่นจันทน์” พระคู่บ้านคู่เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งแกะเป็นองค์จำลองจริง สูงประมาณ 2.32 เมตร ตั้งประดิษฐานไว้ในโบสถ์ วัดช่องลม ซึ่งทุกปีทางเทศบาลเมืองราชบุรี จะอัญเชิญออกมาให้ประชาชนทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงได้กราบไหว้สักการะบูชา ถือเป็นสิริมงคลอันสูงสุดแก่ผู้ที่ได้มากราบไหว้สักการะบูชา ส่วนตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของต้นตะเคียนทองคู่ อายุกว่า 800 ปี นั้นไม่ต้องพูดถึง ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่อาศัยบริเวณรอบวัดต่างรู้ดี ถึงเรื่องปาฏิหาริย์ลี้ลับ และคำสาปอาถรรพ์ ของต้นตะเคียนทองคู่ท้ายวัดช่องลม
                นายสุพจน์ วิเชียรฉาย อายุ 61 ปี เป็นครูภูมิปัญญาไทย สอนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 2 วัดช่องลม เปิดเผยว่า ต้นตะเคียนทองคู่ เป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับวัดช่องลม มีอายุประมาณ 800 ปี ส่วนที่ตัดต้นตะเคียน มาแกะสลักเป็นหลวงพ่อแก่นจันทน์นั้น เนื่องจากมีคุณลักษณะเป็นสิริมงคลตรงตามหลัก 3 อย่าง ที่คนโบราณว่าไว้ 1.เป็นต้นตะเคียนทองคู่ 2.เกิดในวัด 3.เงาของต้นตะเคียนทองจะทอดลงไปในคลอง เรียกว่า “ตะเคียนคุ้มครอง” ก่อนตัดนำมาแกะสลักเป็นหลวงพ่อแก่นจันทร์ เคยเกิดเหตุฟ้าผ่าใส่หลายครั้งแต่ไม่ตาย จนต้นตะเคียนตายพราย หรือยืนต้นตาย ซึ่งยืนต้นตาย 8 เดือน และฟื้นขึ้นมาใหม่ เป็นแบบนี้มา 3 ครั้ง ก่อนทางวัดกำลังจะหาไม้มาแกะสลักเป็นหลวงพ่อแก่นจันทร์ หลวงพ่อวัดช่องลมจึงไปอธิษฐานบอกกล่าว และได้นิมิตตอบรับจากแม่ย่าตะเคียนทอง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “แม่หญิงทับแก้ว” ในนิมิตของหลวงพ่อ แม่ย่าตะเคียนทองบอกว่า “ให้นำร่างต้นตะเคียนมาสร้างเป็นพระพุทธรูปได้เท่านั้น เราจะสละร่างให้ แต่ห้ามนำร่างเราไปทำอย่างอื่นเด็ดขาด” หลังจากนั้นต้นตะเคียนก็ยืนต้นตายและไม่ฟื้นอีกเลย แต่กลับมีต้นตะเคียนทองสองต้นเกิดขึ้นมาใหม่ในบริเวณใกล้กัน หลวงพ่อวัดช่องลมจึงทำพิธีตั้งศาลให้ และค่อยตัดต้นตะเคียนมาแกะสลักเป็นหลวงพ่อแก่นจันทร์
                 ส่วนเรื่องปาฏิหาริย์ลี้ลับของต้นตะเคียนทองคู่นั้น ผู้เฒ่าผู้แก่จะรู้ดีว่าท่านมีความเฮี้ยนและความดุมากกับคนที่ไม่ดี แต่คนที่ประพฤดีท่านจะค่อยช่วยเหลือคุ้มครอง ซึ่งก่อนหน้านี้ช่างที่มาแกะสลักต้นตะเคียน ซึ่งตนบอกให้จุดธูปบอกก่อน แต่ช่างไม่ยอมจุดธูปบอกก่อนลงมือทำ พอช่างนำเลื่อยวงเดือนไปแตะต้นตะเคียนเท่านั้น เลื่อยกับกระเด้งใส่กลับมาที่แขนของช่าง ทำให้แขนของช่างเกือบขาด และช่างคนนั้นก็หนีหายไปเลย ทางวัดจึงให้พระและเด็กวัดช่วยกันแกะสลักจนปี 52 จึงแล้วเสร็จ ซึ่งในปีนั้นเอง แม่ยายตะเคียนทอง ให้โชคลาภกับคนที่มาเข้าร่วมพิธีปลุกเสก บางคนถูกเลขได้เงินเป็นล้านบาท และถูกหลายงวดติดๆกัน
                น.ส.สุรีย์รัตน์ เพ็งอุดม อายุ 31 ปี ชาวบ้านในระแวกใกล้กับศาล ได้เล่าว่า บ้านของตนอยู่ใกล้กับต้นตะเคียนทองคู่ ซึ่งตนเห็นต้นตะเคียนมาตั้งแต่เกิด หลังจากทางวัดให้ทหารมาตัดต้นตะเคียนไป จึงศร้างศาลให้ โดยทุกวันก่อนวันหวยออก จะมีชาวบ้านทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่มาขอเลขกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะได้เลขไปและถูกเลขกันทุกงวด โดยเฉพาะที่บ้านของตน จะถูกสลากกินแบ่งทุกงวด แม้งวดที่ผ่านมาตนก็ถูก ส่วนบางคนที่มาขอเรื่องอื่นๆ ก็ได้สมดังหวัง บางคนมาเล่าให้ฟังว่า ถูกเลขบ่อยครั้งและถูกจำนวนเยอะ จนเจ้ามือไม่รับเลข คนที่จะมาขอโชคลาภที่ศาลแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะรู้จากการมากราบไหว้สักการะหลวงพ่อแก่นจันทร์ ภายในวัดช่องลม และจะแวะเข้ามากราบไหว้ขอโชคลาภที่ศาล พอได้เลขกลับไปก็จะกลับมาอีกเพราะถูกเลขกันเกือบทุกงวด จึงต้องกลับมาแก้บนและขอเลขไปใหม่ ซึ่งตนกล้ายืนยันเพราะที่บ้านตนถูกเลขทุกงวด ตนกล้าคอนเฟิร์ม ถูกจริงทุกงวด
                 ส่วนประวัติของต้นตะเคียนมีเยอะมากจนเล่าไม่จบ ตั้งแต่ช่วงทำคลอง มีการตัดกิ่งตะเคียนแค่กิ่งเดียว โดยไม่ได้จุดธูปบอกกล่าว ทำให้ปั้นจั่นตอกเสาเข็มล้มทับขาคนงานจนบาดเจ็บถึง 2 ครั้ง แต่ปั้นจั่นที่ล้มทับคนงาน กับไม่ล้มใส่บ้านทุกหลังที่อยู่แถวนั้น จนผู้รับเหมาต้องไปจุดธูปขอขมาจึงสามารถตั้งปั้นจั่นทำงานต่อได้ ส่วนทหารที่ทางวัดขอให้มาช่วยตัดต้นตะเคียนนำไปแกะสลักเป็นหลวงพ่อแก่นจันทร์ ซึ่งต้นตะเคียนมีขนาดใหญ่มาก และมีกิ่งยื่นข้ามคลองไปบ้านชาวบ้านหลายหลัง รวมทั้งบ้านตนด้วย แต่ช่วงที่มีการตัดบ้านทุกหลังกับไม่ได้รับความเสียหายเลย ทั้งๆที่ชาวบ้านทุกคนต่างรู้กันดีว่า ต้องมีกิ่งของต้นตะเคียนตกลงมาทับหลังคาบ้านอย่างแน่นอน แต่กลับไม่มีบ้านหลังไหน ที่ได้รับความเสียหาย ส่วนต้นตะเคียนที่ตัดไปชาวบ้านรู้ดีว่า ท่านอนุญาติให้นำไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูปเท่านั้น ห้ามนำไปทำอย่างอื่น แต่มีพระภายในวัดช่องลม นำไม้ที่เหลือไปทำเป็นเตียง และโต๊ะ ทำให้พระองค์นั้นลุกเดินไม่ได้ไปเป็นเดือน จนต้องไปขอขมา จึงค่อยๆดีขึ้น ซึ่งไม้ที่เหลือทุกวันนี้ ไม่มีใครกล้านำไปทำอะไร และยังเคยมีคนมาลองดีที่ศาลแห่งนี้ จนเจอดีไปหลายคน บางคนถึงขนาดต้องนั่งรถเข็นมาขอขมาก็มี ส่วนคนที่คิดไม่ดีพอผ่านศาลจะเจอแม่ย่าตะเคียนยืนชี้หน้าบ้าง บางครั้งเจอเด็กเดินหายเข้าไปในศาลบ้าง ยอมรับว่า ชาวบ้านทุกคนในระแวกนี้และครูคุณในโรงเรียนวัดช่องลม ให้ความเคารพศรัทธาต่อศาลแห่งนี้เป็นอย่างมาก
ขณะที่พิธีแก้บนในช่วงพิธีรำแก้บน นางน้ำผึ้ง รอดเรือนคุณ หนึ่งในแกนนำผู้มาแก้บน ได้เกิดอาการแปลกๆ โดยเสียงเริ่มเปลี่ยนไป พูดจาและทำท่าทางเหมือนยายแก่ พร้อมกับลุกขึ้นเข้าไปนั่งนอนภายในศาลดื้อๆ ทำให้ชาวบ้านและนางรำพร้อมผู้มาเข้าร่วมพิธี แม้แต่ผู้สื่อข่าวเอง ต่างพากันตกใจ และอึ้งกันไปตามๆกัน นางน้ำผึ้ง ยังมีอาการแปลกๆ เช่นบอกให้ละครรำที่มาแสดงแก้บน ร้องดังๆ เพราะไม่ได้ยิน พร้อมกับกินหมากพูล และนอนกระดิ้ดเท้า เอามือตบขา เหมือนคนนอนฟังเพลงสบายใจ ทำให้ชาวบ้านทุกคนที่มาร่วมพิธีเชื่อว่า แม่ย่าตะเคียนทอง หรือแม่หญิงทับแก้ว มาเข้าร่างนางน้ำผึ้ง เพื่อรับของเซ่นไหว้แก้บน และมาดูละครรำแก้บน  หลังจากนั้นผ่านไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง นางน้ำผึ้ง จึงมีอาการแปลกๆอีกครั้ง จากเสียงยายแก่เป็นเสียงเด็ก และมีลักษณะอาการคล้ายเด็ก ร้องขอกินน้ำส้มและขนมหวาน พร้อมกับบอกชาวบ้านที่เข้าไปมุ่งดูว่า อยากได้”อัฐ” หรือเงินเหรียญ พอมีคนเอาแบงค์ใส่ในกระเป๋าให้ เหมือนร่างนางน้ำผึ้ง ที่กลายเป็นเด็กกลับไม่ค่อยชอบใจ แต่พอได้เหรียญใส่ในกระเป๋า ทำให้ร่างนางน้ำผึ้ง ดีใจคล้ายกับเด็กได้ของเล่น พร้อมพูดด้วยเสียงเด็กว่า “มีอัฐเต็มเลย” ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า คราวนี้เป็นร่างของ”กุมารทองอินทนินท์” มาเข้าร่างนางน้ำผึ้ง เพื่อรับของเซ่นไหว้แก้บน
              ผู้สื่อข่าวจึงแกล้งนำเหรียญไปใส่ให้ในกระเป๋า พร้อมกับบอกร่างนางน้ำผึ้ง ที่ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นกุมารทองอินทนินท์มาเข้าสิง ให้บอกเลขหรือให้หยิบไม้เซียมซีให้หน่อย แต่กลับได้รับคำตอบว่า “บอกไม่ได้ หยิบไม่ได้ เดียวแม่ดุเอา” พร้อมกับก้มลงไปคาบไม้เซียมซีขึ้นมา ซึ่งที่ไม้มีเลข 5, 2 และ 10 เมื่อชาวบ้านเห็นตัวเลขต่างพากันส่งเสียงเฮกันใหญ่ พอหลังจากนั้นนางน้ำผึ้ง ได้นิ่งเงียบไปสักพักพอชาวบ้านเขย่าตัวนางน้ำผึ้ง กลับกลายเป็นลักษณะคล้ายชายแก่ และมีเสียงเหมือนชายแก่ด้วย พร้อมบอกกับชาวบ้านด้วยน้ำเสียงชายแก่ว่า ให้นำยาสูบมาให้สูบ ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า “พ่อปู่ดำ” มาเข้าร่างเพื่อรับของแก้บน ทั้งๆที่นางกฐิลา ซึ่งเป็นพี่สาวของนางน้ำผึ้ง บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่า นางน้ำผึ้งสูบยาและกินหมากพลูไม่เป็น และไม่ชอบกินน้ำส้มกับขนมหวานด้วย เพราะกลัวอ้วน แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นกลับทำให้ทุกคนแปลกใจและชวนสงสัยเป็นอย่างมาก ซึ่งนางน้ำผึ้ง มีอาการดังกล่าวกว่าชั่วโมงกว่า จนนิ่งเงียบหายไป พอรู้สึกตัวก็มีอาการเหมือนคนเหนื่อยเพลียและจำอะไรไม่ได้
                หลังจากนางน้ำผึ้ง ได้สติทางผู้สื่อข่าวจึงได้ลองสอบถามดู และได้รับคำตอบจากนางน้ำผึ้ง ว่า ตนจำอะไรไม่ได้ เท่าที่จำได้กำลังนั่งฟังพระและรอดูเขารำละครถวายแก้บน แต่ก็ไม่เห็นเขาจะรำละครสักที จนเหมือนตนหลับไปพอรู้ตัวอีกทีเขาไปไหนกันหมดแล้วไม่รู้ ช่วงเวลาชั่วโมงกว่าตนไม่รู้ตัวเลยว่าเกิดอะไรขึ้น จะรู้อย่างเดียวในตอนนี้ตัวเองมีแต่กลิ่นยาสูบกับกลิ่นหมากเต็มปากไปหมด ตนยอมรับว่าถูกหวยบ่อยเรียกได้ว่าเกือบทุกงวด ส่วนใหญ่จะได้เลขจากการขอเลขเซียมซี บางครั้งขอแล้วมีเลขขึ้นมาในหัวเฉยๆเลย พอไปซื้อก็ถูก โดยเฉพาะคนที่ดูแลศาลถูกเกือบทุกงวด ซึ่งวันนี้ได้ร่วมกับคนที่เคยมาขอโชคลาภที่ศาลแห่งนี้ และถูกเลขกันจึงมาแก้บน ซึ่งงวดนี้ตนเองจะซื้อเลข 86 เพราะได้มาจากการขอที่ศาล ส่วนคนที่มาขอโชคลาภที่ศาลแห่งนี้ จะมาแก้บนต้องรู้ก่อนว่าขอกับใคร ถ้าขอกับแม่ย่าตะเคียนทอง หรือแม่หญิงทับแก้ว ต้องแก้ด้วยชุดไทย หมากพูล อาหารคาวหวาน แต่ที่ท่านชอบมากที่สุดคือ ละครรำ ของวงละครชาตรี วาสนานาฏศิลป์ จ.ราชบุรี แม่ย่าตะเคียนทองจะชอบมาก ส่วนถ้าขอกับกุมารทองอินทนินท์ ต้องแก้บนด้วย ของเล่น น้ำส้ม ขนมหวานทองหยิบ ทองหยอด แต่ถ้าขอกับพ่อปู่ดำ จะต้องแก้ด้วย ยาสูบ กับอาหารคาวหวาน ส่วนมากทุกคนจะขอกับแม่ย่าตะเคียนทอง และกุมารทองอินทนินท์ เพราะพ่อปู่ดำ จะไม่ชอบเรื่องเลขเรื่องหวย จะชอบเรื่องช่วยเหลือหรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งตนทราบมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!