ร้อยเอ็ด-ชป.6 เร่งพร่องน้ำเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากลุ่มน้ำยัง

ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน / อำนวย ระดาบุตร บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

สำนักงานชลประทานที่ 6 โดยโครงการชลประทานร้อยเอ็ด เร่งพร่องน้ำผ่านประตูระบายน้ำจำนวน 3 แห่ง ลงห้วยวังหลวง เตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากในลุ่มน้ำยัง หลังมีฝนตกในพื้นที่ส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ย้ำ! อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 12 แห่งในจังหวัดร้อยเอ็ดยังสามารถรับน้ำได้มากกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร

          นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.63 จนถึงปัจจุบัน (8 ก.ค.63) มีฝนตกกระจายในพื้นที่ทั้ง 5 จังหวัด (ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด) ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมกันประมาณ 79 ล้าน ลบ.ม. สำหรับในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งเป็นพื้นที่ เฝ้าระวังเป็นพิเศษ มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้งหมด 12 แห่ง ความจุเก็บกักรวม 69 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 11 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 16 ของความจุเก็บกักรวม ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.63 จนถึงปัจจุบันมีน้ำไหลลงอ่างฯ ประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม. จึงทำให้ยังมีช่องว่างที่สามารถรองรับน้ำได้อีกประมาณ 58 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 84 ของความจุเก็บกักรวม สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยังที่สถานีวัดน้ำ E.54, E.70, และ E.92 ปริมาณน้ำไหลผ่านยังอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ต่ำกว่าตลิ่งเฉลี่ยประมาณ 3-6 เมตร
          อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดยังมีพื้นที่ว่างที่สามารถรองรับน้ำในฤดูฝนนี้ได้อีกมากพอสมควร แต่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำในฤดูน้ำหลาก โครงการชลประทานร้อยเอ็ดจึงได้เร่งพร่องน้ำจากประตูระบายน้ำบุ่งเป้า ประตูระบายน้ำกุดปลาเข็ง และประตูระบายน้ำบ้านบาก ลงสู่ห้วยวังหลวงเพื่อตัดยอดน้ำบางส่วน ให้อยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการน้ำฯ รวมไปถึงกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก
          ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงได้เริ่มขนย้ายเครื่องจักเครื่องมือ อาทิเช่น เครื่องสูบน้ำ, รถขุด, Sheet Pile, กระสอบทราย และเครื่องมือต่าง ๆ เข้าประจำไว้ในพื้นที่ให้เพียงพอ และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา พร้อมจะเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีหากเกิดอุทกภัย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/