สุพรรณบุรี-ประภัตรเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี
ประภัตรเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งช่วยเหลือเกษตรกรไม่มีน้ำทำนา
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงการเรื่องบริหารจัดการน้ำคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง คลอง มอ.ให้เกษตรกรรับทราบปัญหาการใช้น้ำ เนื่องจากขณะนี้น้ำจากเขื่อนหลัก เช่นเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้อย ประกอบกับปีนี้ฝนทิ้งช่วงมานาน ชาวนาที่เริ่มทำการเพราะปลูกข้าวไปแล้วจึงได้รับความเดือดร้อน และชาวนาอีกจำนวนมากยังไม่ได้ทำนา เนื่องจากไม่มีน้ำทั้งจากคลองชลประทานและน้ำฝน
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ จึงได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อช่วยกันหาทางแก้ไขช่วยเหลือเกษตรกร ประกอบด้วย นายภูสิต สมจิตต์ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี นายนที มนตริวัต รอง ผวจ.ชัยนาท นายจิรศักดิ์ ชำนาญภัคดี นายอำเภอสามชุก นายกิติพงษ์ แย้มมี นายอำเภอดอนเจดีย์ นายประยูร เย็นใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านจัดสรรน้ำและ บำรุงรักษา) นายกฤษฎา ศรีเพิ่มพันธ์ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 12 นายพงษ์ศักดิ์ อัครมณี ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา นายยศดนัย น้อยแก้ว ผอ.โครงการชลประทานสุพรรณบุรี นายบุญฤทธิ์ จำปาเงิน ผอ.โครงการส่งน้ำน้ำและบำรุงรักษาสามชุก นายรุ่งธรรม บ่อเกิด ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดอนเจดีย์ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกร จ.สุพรรณบุรี จำนวน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.ศรีประจันต์ อ.ดอนเจดีย์ อ.เมืองสุพรรณบุรี และ อ.อู่ทอง บางส่วน กว่า 200 คน ร่วมกันประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งนาข้าวเริ่มขาดน้ำและเกษตรอีกจำนวนมากไม่มีน้ำทำนา ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านดอนไร่ ริมคลองชลประทานมะขามเฒ่า-อู่ทอง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าได้รับการมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ว่าให้ช่วยหาแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้เกษตรกร เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูการทำนา แต่เกษตรกรยังไม่มีน้ำที่จะทำนา โดยเฉพาะเกษตรกรที่ใช้น้ำจากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง คลอง (มอ.) ตั้งแต่ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.ศรีประจันต์ อ.ดอนเจดีย์ อ.เมืองสุพรรณบุรี และ อ.อู่ทอง ยังไม่มีน้ำทำนาอีกหลายแสนไร่ มีเพียง อ.เดิมบางนางบวช ทำนาไปแล้ว 60,000 ไร่ อ.สามชุกทำนาไปแล้ว 29,000 ไร่ ขณะนี้นาข้าวเริ่มขาดน้ำแล้ว
ล่าสุดจึงขอให้ทางชลประทานช่วยเร่งปล่อยน้ำ จากประตูน้ำพลเทพ ปากคลอง มอ.จ.ชัยนาท ลงสู่คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ด้านนายประยูร เย็นใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านจัดสรรน้ำและ บำรุงรักษา) เปิดเผยว่าจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ดังนี้ 1 สถานีสูบน้ำไฟฟ้าปากคลอง มอ. จำนวน 3 เครื่อง อัตรา 9 ลบ.ม./วิ 2.เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 2 เครื่อง อัตรา 6 ลบ.ม./วิ ก็จะมีปริมาณน้ำเข้าคลอง มอ. 15 ลบ.ม./วิ กว่า 10 วันจนกว่าจะได้กำหนดให้เกษตรกรได้สูบพร้อมกับวันที่ 28 ส.ค. ก็จะมีปริมาณน้ำเข้าคลอง มอ.กว่า 12,000,000 ลบ.ม.แต่เกตษรกรต้องหยุดสูบน้ำ เพื่อต้องการให้ปริมาณน้ำเข้าให้เต็มคลอง จากนั้นวันที่ 28 ส.ค.เกษตรกรเริ่มสูบน้ำเข้านาพร้อมกับเพื่อป้องกับการแย่งน้ำ
ด้านนายนที มนตริวัต รอง ผวจ.ชัยนาท เปิดเผยว่าในส่วนพื้นที่ จ.ชัยนาท ได้ประสานนายอำเภอทุกอำเภอให้ชี้แจงกับเกษตรกรที่ใช้น้ำ คลอง มอ.ขอความร่วมมือให้หยุดสูบน้ำก่อน ขอให้สูบพร้อม ๆ กับ เกษตรกร จ.สุพรรณบุรี ในวันที่ 28 ส.ค.ขณะที่นายภูสิต สมจิตต์ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าได้รับการมอบหมายจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและช่วยกันหาแนวทางจัดสรรน้ำให้เกษตรกรให้ได้ใช้น้ำอย่างทั่วถึงกัน จึงได้มอบหมายให้นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ชลประทาน และเกษตรอำเภอ ออกช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้เกษตรกรลักลอบสูบน้ำ ก่อนวันที่ 28 ส.ค.ขอให้ถือปฏิบัติตามกติกาที่ได้มีการตกลงกันในที่ประชุมเอาไว้ อย่างไรก็ตามขอให้เกษตรที่ใช้น้ำ คลอง มอ.ทุกอำเภอต้องช่วยกันรักษากฎกติกาที่ได้ตกลงกันไว้ตามมติที่ประชุมเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันการขัดแย้ง และป้องกันการแย่งกันสูบน้ำระหว่างเกษตรกรกันเองด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/