ร้อยเอ็ด-จัดงาน สัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริ

ข่าว/ภาพ:คมกฤช พวงศรีเคน 
ขอบคุณภาพ:อำนวย ระดาบุตร 
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

            ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงาน สัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พัฒนางานด้านปศุสัตว์

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ หอประชุมเทศบาลตำบลสลภูมิ อำเภอสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายทวี จงประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมด้วยปศุสัตว์เขต 4 หัวหน้าส่วนราชการ สังกัดกรมปศุสัตว์ และเครือข่ายเกษตรกร เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

              นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ ร่วมกับสัตวแพทย์สภา หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา ที่ดำเนินงานด้านปศุสัตว์ ได้ร่วมถวายงานในด้านการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้เกิดความกินดีอยู่ดีของประชาชนชาวไทยตามพระราชประสงค์ และดำเนินโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริฯ ในระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2563 รวม 17 จุด ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสลภูมิ อำเภอโพนทอง อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอทุ่งเขาหลวง อำเภออาจสามารถ และอำเภอธวัชบุรี ดำเนินการให้บริการทั้งสัตว์เล็ก ได้แก่ สุนัข แมว และสัตว์ใหญ่ ได้แก่ โคเนื้อ กระบือ และโคนม ในเรื่องของการบริการตรวจสุขภาพ การรักษาสัตว์เจ็บป่วย การวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า การผ่าตัดทำหมัน การกำจัดพยาธิภายใน ภายนอก การแก้ไขปัญหาการผสมติดยาก การฉีดวัคซีนป้องกัน การฉีดวัคซีนป้องกันโรคปาก และเท้าเปื่อย การถ่ายพยาธิ อาหารเสริมบำรุงสุขภาพสัตว์ เก็บตัวอย่างตรวจสุขภาพประจำปี และการแก้ไขปัญหาสุขภาพสัตว์ตามฤดูกาล
นอกจากนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมจุดให้บริการประชาชน พร้อมย้ำว่า กรมปศุสัตว์ เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรให้สามารถประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์ ได้อย่างยั่งยืนและสานต่อโครงการพระราชดำริ เป็นการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปสู่การปฏิบัติและประยุกต์ให้สอดคล้องเหมาะสมกับชุมชนและพื้นที่ช่วยให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์มากขึ้นบนพื้นฐานทรัพยากรของท้องถิ่นนั้น มุ่งสร้างอาชีพ สร้างความมั่นคงทางอาหาร ทำให้ชุมชนยั่งยืน