สตูล-พรรคภูมิใจไทยอัดงบ ทำถนน สร้างตึกผู้ป่วยโรงพยาบาลละงู
ภาพ/ข่าว:ชิดชนก พุดทอง
พรรคภูมิใจไทยล่องอันดามัน มาสตูล อัดงบ ทำถนน สร้างตึกผู้ป่วยโรงพยาบาลละงู ตอบแทนพี่น้องไว้วางใจ เลือก สส. 2 เขต
วันที่ 6 ก.ย. 63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชัยวัฒน์ ทองคําคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม เดินทางมาสตูล โดยมีนายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องประชาชน อสม.ทุกพื้นที่ให้การต้อนรับ ในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล เพื่อดู สถานที่ติดตั้ง แท่งมาริเอ้อ หรือ แท่งกั้นแนวเขตถนน โดยใช้ ยางพาราเป็นส่วนผสม ซึ่งพื้นที่ จ.สตูล เป็นพื้นที่นำร่อง ที่ใช้แท่งมาริเออร์ หรือ แท่งกั้นแนว เขตถนน ที่ทำจากยางพารา และพร้อมกันนี้ ได้ อัดงบทำถนน ในพื้นที่ จ.สตูล กว่า 3800 ล้าน จัดงบในการก่อสร้างหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลละงู จ.สตูล 80 ล้าน เพื่อตอบแทน ที่พี่น้องประชาชนคนสตูล เลือก สส. พรรคภูมิใจไทยทั้ง 2 เขต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าพวกเราทุกคนได้ทำโครงการต่าง ๆ เพื่อมอบให้แก่พ่อแม่พี่น้องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รมต. คมนาคม ได้มอบ เงิน 3,800 ล้านบาทเศษ ที่มอบให้ จ.สตูล ในการสร้างถนนหนทางให้คนสตูลเดินทางสะดวกและตนเอง ไม่อยากน้อยหน้าเพิ่มให้ อีก 80 ล้าน ในการสร้าง อาคารผู้ป่วยใน โรงพยาบาลละงู ซึ่งท่านผู้ว่าฯสตูล รอเซ็นต์เอกสารในวันอังคารที่จะถึงนี้ เมื่อ สส.นำสิ่งที่พี่น้องต้องการมาเสนอ ตนเองมีวินัยคือทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาคือพี่น้อง ประชาชน เมื่อพี่น้องประชาชนต้องการ ตนเอง จึงจัดให้พี่น้องประชาชน ตามที่ ท่านต้องการมาให้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เพื่อเพิ่มมูลค่าราคายางพาราให้แก่เกษตรกร ซึ่งในวันนี้ทราบมาว่า ราคายางสูงขึ้น เป็นกิโลกรัมละ 60 บาท นี้คือ สิ่งที่รัฐบาลกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตร ทำงานให้พี่น้อง และนี้คือสิ่งที่ เราทำให้พี่น้อง สตูลมีสินค้าหลักคือ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน กระทรวงคมนาคมต้องกลับไปคิดว่าจะทำอะไรได้บ้างแต่ยางพารานั้น ทางเราได้คิดถึงการทำมาริเออร์ หรือแท่งกั้น แนวเขตถนน ซึ่งได้ มีการนำไปทดสอบถึงประเทศเกาหลีใต้เพื่อทดรองดูว่า ถ้ารถที่ขับความเร็ว 120 แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร ซึ่ง สรุปได้ว่า คนปลอดภัยถึงแม้นว่า รถจะเสียหาแต่คนปลอดภัยซึ่งโครงการได้เริ่มในปี 63 และจะต่อไปในปี 65 เพราะ ยางสามารถใช้ได้ 3 ปี ก็จะเปลี่ยนครั้งหนึ่ง สามารถที่จะรับซื้อน้ำยางปีละ 3 แสนกว่าตัน ซึ่งถือว่าเป็นผลสำเร็จที่ทุกคน ได้ช่วยกัน เพื่อให้พี่น้องประชาชน เกษตรกรที่ปลูกยางพาราได้มีรายได้เพิ่มขึ้น และโครงการนี้ จะสามารถที่จะทำให้ราคายางพาราปรับขึ้นราคา มาอย่างแน่นอน
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/