นครพนม-พ่วง 18 ล้อหลับใน พุ่งชนร้านลาบพังถล่มยับ!

ภาพ/ข่าว:ชนะ วสุรักคะ

พ่อแม่ลูกช็อก! ลุกตื่นกลางดึกพ่วง 18 ล้อหลับใน พุ่งชนร้านลาบพังถล่มยับ!

       เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 7 ก.ย. พ.ต.ท.ประเสริฐศักดิ์ นวลบัติ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เสียหลักพุ่งชนร้านอาหารริมทางสายนครพนม-ธาตุพนม ช่วงสามแยกบ้านต้อง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม รุดไปตรวจสอบ

         ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก 3 แยกบ้านต้อง ฝั่งขาเข้าตัว อ.ธาตุพนม ประมาณ 500 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อฮีโน่ 18 ล้อ สีขาว มีนายไพฑูรย์ สอนอาจ อายุ 36 ปี ชาว ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สภาพพุ่งชนเพิงร้านลาบก้อยต้ม ตั้งอยู่เลขที่ 206 หมู่ 1 บ.ต้อง ต.ฝั่งแดง ของนายวิระ จันทะสอน วัย 48 ปี เจ้าของร้านมิวจ๋าลาบแซบ พังเสียหายยับเยิน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รั้วคอนกรีตข้างบ้าน 2 ข้างและหน้าบ้าน เสารั้วหลายต้นล้มระเนระนาด โครงเหล็กและหลังคาอะลูซิงค์ ได้พังถล่มทั้งแถบ นอกจากนี้ยังพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 882 มุกดาหาร และรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 4 กธ 190 กรุงเทพมหานคร ถูกแรงชนอัดได้รับความเสียหาย

             นายวิระ เจ้าของบ้านและเจ้าของร้านลาบก้อย กล่าวว่า กลางดึกวันที่ 7 ส.ค. ขณะนอนหลับพักผ่อนอยู่กับภรรยาและลูกสาววัย 27 ปี รวม 3 คน ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหลคล้ายเสียงฟ้าผ่า จึงสะดุ้งลุกตื่นขึ้นมาดู พบรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อคันดังกล่าว พุ่งชนเพิงร้านถล่มเสียหาย แรงกระแทกอัดใส่รถเก๋งและฟอร์จูนเนอร์เสียหาย 2 คัน ตนภรรยาและลูกนอนอยู่ด้านล่างบนบ้านไม้ 2 ชั้น ห่างจากจุดที่รถพุ่งชนแค่ 1 เมตร เฉียดฉิวโชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด  นายวิระ กล่าวต่อว่า ร้านลาบก้อยแห่งนี้ เปิดริมทางหลวงมานาน 8 ปี พบว่ามีข้าวของและอุปกรณ์เสียหาย อาทิ ถ้วนจาน กะละมัง เตาแก๊ส หม้อ และเนื้อวัวที่ซื้อไว้เตรียมขายมูลค่า 20,000 บาท ส่วนเพิงร้านก่อสร้างหมดงบสร้างกว่า 200,000 บาท  เจ้าหน้าที่สอบถามนายไพฑูรย์ คนขับรถพ่วง 18 ล้อให้การเบื้องต้นว่า ได้ขับรถพ่วงคันดังกล่าวบรรทุกมังคุดมาเต็มคันรถ ไม่ได้หลับไม่นอนพักผ่อนมา 2-3 วัน คาดว่าอาจจะวูบหลับใน ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนร้านได้รับความเสียหายดังกล่าว ส่วนรถบรรทุกมีประกันอุบัติเหตุ ซึ่งจะได้สอบสวนและเรียกเจ้าของบริษัทรถ มาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/