เชียงใหม่-แจงกรณีพม่าแอบเข้าละหมาดจนต้องปิดมัสยิด

ภาพ/ข่าว:อริธัชย์ พรอัศวโยธิน
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จ.ชม.

           จังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีที่มีรายงานว่ามีชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง มาละหมาดที่มัสยิด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังพบมีไข้สูง ทำให้มัสยิดต้องปิดทำการ

            จากกรณีดังกล่าว ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานงานกับเทศบาลนครเชียงใหม่ และ ศปก. อำเภอเมืองเชียงใหม่ ส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ เพื่อติดตามข้อเท็จจริง พบว่าบุคคลดังกล่าว ไม่ได้เป็นบุคคลต่างด้าว แต่เป็นชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพสถาปนิก มีบ้านพักอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางกทม. – ชม. เป็นประจำ โดยปกติจะไปละหมาดที่มัสยิดช้างคลาน แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2563 ได้ไปทำธุระในพื้นที่ใกล้กับมัสยิดอัตตักวา เวลาประมาณ 12.00-12.30 น. ได้เข้าไปคัดกรองอุณหภูมิที่มัสยิด เพื่อที่จะเข้าไปประกอบพิธีละหมาด พบว่าวัดอุณหภูมิได้ 37.8 องศา เนื่องจากเดินตากแดดมาระยะทางค่อนข้างไกล ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปในมัสยิด จึงเดินทางกลับและได้แวะห้างแห่งหนึ่ง วัดไข้ 2 ครั้ง พบอุณหภูมิปกติไม่มีไข้ จากการซักประวัติชายคนดังกล่าวไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศหรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีอาการทางเดินหายใจใด ๆ ทั้งสิ้น
               แต่เนื่องด้วย เจ้าหน้าที่ของมัสยิดอัตตักวา ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นชายคนดังกล่าว จนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวต่างด้าว เมื่อทางมัสยิดช้างคลานทราบเรื่อง จึงได้ทำการประกาศปิดมัสยิด เพื่อทำความสะอาดและวางแผนการป้องกันควบคุมโรค จนทำให้เกิดการเข้าใจผิดและสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้เก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจของชายคนดังกล่าว ส่งตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ในวันนี้ (8 กันยายน 2563) และอยู่ระหว่างรอผลตรวจ เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของประชาชนชาวเชียงใหม่

                ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ประชาชนมั่นใจในการป้องกันควบคุมโรค รวมถึงแนวทางการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค และเน้นย้ำให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก แต่ยังคงรักษามาตรฐานป้องกันตัวเองให้เป็นนิสัย ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และไปในที่สาธารณะ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูกปาก และเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัดคนรวมกันจำนวนมาก รับประทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางและช้อนส่วนตัว เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสและแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ที่สำคัญ รวมถึงงดแชร์ข่าวลือ หรือข่าวที่ไม่มีที่มาที่เชื่อถือได้ อย่าหลงเชื่อ Fake News และสามารถรับฟังข่าวสารที่ถูกต้องได้โดยตรงจากศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง ได้มีการเผยแพร่ข่าวสารเป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว หากพบบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศหรือพื้นที่เสี่ยง หรือสถานที่ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรค สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่โรคติดต่อในพื้นที่ของท่าน หรือแจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-211048-50 หรือ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-112678