สระบุรี-ม.นานาชาติเอเชีย แปซิฟิก ระดมทุนมอบคนไร้รัฐไร้สัญชาติ

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย แปซิฟิก ระดมทุนมอบคนไร้รัฐไร้สัญชาติ

                   วันที่ 17 ก.ย.63 ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย แปซิกฟิก 195 ม.3 ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ดร.ศิโรจน์ โสรัจจกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย แปซิฟิก ได้จัดระดมทุน เพื่อมอบให้กับนักศึกษา ที่ไร้รัฐไร้สัญชาติ โดยได้ร่วมมือกับโครงการไร้รัฐไร้สัญชาติ ADRA THAILAND ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยมีคนไร้รัฐไร้สัญชาติมากกว่า 450, 000 คนคนเหล่านี้ขาดโอกาสในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอาทิการเข้าถึงการรักษาพยาบาลการถือครองที่ดินการศึกษาขั้นสูงเป็นต้นรัฐบาลไทยพยายามแก้ไขปัญหาการไร้รัฐสัญชาติอย่างต่อเนื่องรวมถึงการเปิดโอกาสให้เด็กที่เกิดในประเทศไทยและจบปริญญาตรีสามารถขอสัญชาติไทยได้อย่างไรก็ตามเนื่องจากคนไร้สัญชาติกลุ่มนี้มีฐานะที่ยากจนส่วนมากต้องออกจากโรงเรียนเพราะไม่มีเงินทุนสนับสนุนจึงทำให้เขาเหล่านี้ขาดคุณสมบัติในการขอสัญชาติ ทางมหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย-แปซิฟิก ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการศึกษา จึงได้ริเริ่มโครงการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 12 ทุน เพื่อมอบโอกาสให้คนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีเหมือนกับบุคคลทั่วไป เมื่อผู้รับทุนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีแล้วสามารถนำวุฒิการศึกษานี้ไปพัฒนาสิทธิของตนเองตามกฎหมายและสามารถประกอบอาชีพได้อย่างอิสระรวมถึงยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัวในอนาคตได้
                      ทางด้าน ดร.ศิโรจน์ โสรัจจกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยเอเชีย แปซิฟิก มีโครงการที่จะช่วยเหลือเด็กนักศึกษาที่ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ซึ่งในปัจจุบันมีนักศึกษาที่ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ อยู่ในมหาวิทยาลัย อยู่ทั้งหมด 12 คน ซึ่งเป็นเด็กชาติพันธ์ ส่วนใหญ่มาจากทางภาคเหนือ คือทางเชียงใหม่ เชียงราย และกาญจนบุรี ซึ่งในมหาวิทยาลัยมีนักศึกษาทั้งหมด 950 กว่าคน และในจำนวนนักศึกษา ก็จะมีเด็กต่างชาติ ซึ่งก็เป็นโอกาสดีของเด็กไร้สัญชาติ ที่จะได้พบกับนักศึกษาจากต่างแดนด้วยกัน ส่วนที่จัดโครงการนี้ขึ้นมาเนื่องจากว่า เด็กพวกนี้โอกาสที่จะได้รับการศึกษา หรือแม้จะได้รับสัญชาติ มันยากมาก และกาศึกษาเป็นทางออกที่สำคัญ เพราะว่าถ้าไม่มีการศึกษา หรือวุฒิการศึกษา ทำให้ยากต่อการเข้าสู่การศึกษา และการเข้าทำงาน เพราะนั้นการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถนำให้เด็กออกจากวัฎจักรของความยากจน ที่ติดอยู่ในสังคมของเขา ซึ่งถ้าเด็กติดอยู่ในสังคมของเขาแล้ว พ่อ แม่ ไม่สามารถที่จะส่งเขาเล่านั้นเข้าเรียน เข้าศึกษาต่อยังระดับที่สูงๆได้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจึงได้จัดโครงการไร้รัฐไร้สัญชาติ ขึ้น เพื่อเป็นการให้โอกาสกับเด็ก ที่ขาดทุนทรัพย์ และขาดโอกาสในการศึกษา ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการให้ความหวังกับเด็กที่จะก้าวต่อไปในอนาคตได้ ส่วนเรื่องทุนของนักศึกษา ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการหาทุนนักศึกษาเอง และเป็นทุนของมหาวิทยาลัยส่วนหนึ่ง ซึ่งทุนของนักศึกษาจะอยู่ที่ทุนละ 80,000 บาท ซึ่งนักศึกษาที่ไร้สัญชาติที่เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย แปซิก ได้รับการประสานจากมูลนิธิ แอ็ดดร้าประเทศไทย ช่วยจัดนักศึกษาเข้ามา เนื่องจากทางมูลนิธิได้ทำงานเกี่ยวกันคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติอยู่แล้ว
                   ทางด้านดร.ศิโรจน์ โสรัจจกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย แปซิฟิก ได้กล่าวเสริมว่ามหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย-แปซิฟิก เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนหญิงไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 15 คน โดยร่วมมือกับ แอ็ดดร้าประเทศไทยเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2563นี้ การบริจาคให้กับทุนการศึกษานี้ เป็นการส่งมอบอนาคต โอกาสในการทำงานและการได้รับสัญชาติของพวกเขา
                 แต่ละปีมหาวิทยาลัยมอบทุนการศึกษาจำนวน 80,000 บาท / 2,500 เหรียญสหรัฐต่อนักศึกษา 1 คน จึงขอเชิญทุกท่านร่วมบริจาค ทุนการศึกษาแก่เยาวชนหญิงไร้รัฐไร้สัญชาติ และรับใบเสร็จลดหย่อนภาษีโดยโอนเงินบริจาคให้กับ มูลนิธิคริสเตียนเมดิคอลของเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนติสท์ ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเลขที่ 149-074744-9 สาขา อุรุพงษ์ และส่งธุรกรรมการโอนมาที่อีเมล account2@mission-hospital.org และ CC อีเมลมาที่ ampawan@apiu.edu ร่วมเปลี่ยนแปลงชีวิตและสร้างอนาคตที่ดีแก่พวกเขาไปด้วยกัน
                   ด้านนางสาวอุ่นทิพย์ พุทธวงค์ เจ้าหน้าที่โครงการไร้รัฐไร้สัญชาติ แอ็ดดร้าไทยแลนด์ กล่าวว่า ทางมูลนิธิทำงานเกี่ยวกับช่วยเหลือคนไร้รัฐไร้สัญชาติ เป็นโครงการให้ทุนสนับสนุนให้กับเยาวชนรัฐไร้สัญชาติที่เข้าสู่ระดับอุดมศึกษา จากที่ผ่านมาพบว่าเด็กกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะออกจากการศึกษากลางคันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่าไม่ได้รับได้โอกาสในเรื่องของการศึกษา และการทำงานในอนาคต จึงมีอัตราเสียงในเรื่องการออกโรงเรียนกลางคัน ในด้านความยากจน มีปัญหาในเรื่องของการเดินทาง เนื่องจากว่าขาดเอกสารในการโอนสัญชาติยากลำบากต่อการเดินทาง ร่วมทั้งขาดโอกาสที่จะได้รับทุนการศึกษาตามที่รัฐจัดให้ ซึ่งทางมูลนิธิฯได้รับโอกาสจากทางมาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย แปซิฟิก สนับสนุนทุนการศึกษากับให้กับโครงการไร้รัฐไร้สัญชาติ เพื่อให้เด็กกลุ่มเหล่านี้ได้รับโอกาสในการศึกษาที่สูงขึ้น และทำงานตามที่ตนมีความสมารถอยู่ และยังเป็นการสามารถยื่นขอสัญชาติได้ เนื่องจากว่ามีกฏหมายที่ระบุไว้ว่าเด็กไร้สัญชาติที่เกิดในประเทศไทย และบิดามารดา เป็นชนกลุ่มน้อย หรือกลุ่มไดๆ เด็กเหล่านี้ต้องจบปริญญาตรี จึงจะสามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้
                    ทางด้านนายชิ แซ่ซ้ง นักศึกษาไร้สัญชาติ มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเซีย แปซิฟิก ชั้นปีที่ 1 สาขาการตลาด กล่าวว่า ผมนายชิ แซ่ซ้ง ผมมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน พ่อแม่ของผมและพี่น้องของผมทุกคนมีบัตรเป็นบัตรหัว 0 ครอบครัวผมมีฐานะค่อนข้างยากจน ตอนที่ผมกำลังเรียนจะจบ ปวช.3 ผมก็เคยคิดนะว่าจะเรียนต่อมหาลัยแต่ครอบครัวผมมีฐานะค่อนข้างยากจน ผมเลยตัดสินใจไม่เรียนต่อ ผมจึงตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพแต่ชีวิตจริงในการทำงานนั้น การที่เราไม่มีสัญชาติไทยนั้น งานต่างๆเขาก็ไม่รับทำงานถึงแม้เราจะเรียนจบสูงแค่ไหนถ้าไม่มีสัญชาติไทยเขาก็ไม่รับเข้าทำงาน ก่อนที่จะสิ้นปีของปี 2562 ที่ผ่านมานี้ ผมจึงตัดสินใจหาทุนเพื่อที่จะเรียนต่อ ผมจึงมาเห็นทางเพจของสิทธิและสถานะบุคคลของทางแอ๊ดดร้าโพสต์มอบทุนและเปิดโอกาสให้กับเยาวชนที่ไร้รัฐไร้สัญชาติ เพื่อในการศึกษาต่อระดับมหาลัย ผมจึงติดต่อไปเพื่อที่จะขอทุนตั้งแต่นั้นมาผมจึงได้ทุนของทางมูลนิธิแอ๊ดดร้า ผมจึงมีโอกาสมาศึกษาต่อในสถาบันแห่งนี้ครับ
2. ทำไมถึงสมัครโครงการนี้เนื่องจากโครงการนี้เปิดโอกาศให้กับนักเรียนและนักศึกษาที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนบ้านหรือไร้รัฐไร้สัญชาติ เพื่อที่จะได้มีโอกาสในการศึกษาต่อและขอสัญชาติไทยได้ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งผมก็เป็นเยาวชนคนนึงที่ไม่มีสัญชาติไทย ผมจึงสมัครขอทุนกับโครงการนี้เพื่อที่จะได้เรียนต่อครับ
3. ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างหลังจากได้รับทุนการศึกษานี้หลังจากที่ผมได้รับทุนการศึกษานี้ทำให้ผมได้มีโอกาสมาศึกษาต่อในสถาบันแห่งนี้และยังช่วยแบ่งเบาภาระของผมได้มากมายเลยครับ เช่น สามารถช่วยแบ่งเบาเรื่องของค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่างๆได้เยอะเลยครับ ถ้าโครงการนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้กับเยาวชนที่ไร้รัฐไร้สัญชาติ ผมคงไม่มีโอกาสมาศึกษาในสถาบันแห่งนี้ครับ ขอขอบคุณมากครับ
4. เรียนไปแล้วเป็นอย่างไรบ้างทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยเรียนมาก่อนและยังทำให้ผมได้พบเจอกับเพื่อนๆที่เป็นชาวต่างชาติและอาจารย์ที่เป็นชาวต่างชาติซึ่งทำให้ผมพูดภาษาอังกฤษได้มากขึ้น จากที่ไม่ค่อยกล้าพูดภาษาอังกฤษตอนนี้ทำให้ผมสามารถกล้าพูดภาษาอังกฤษแล้วครับ
                      ทางด้านนางสาวดาว นามแสง นักศึกษาไร้สัญชาติ มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเซีย แปฟิก ชั้นปีที่ 1 สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา กล่าว่า หนูเป็นเด็กที่เติบโตมาในอำเภอแม่สาย อำเภอที่มีความหลากหลายทางชาติพันธ์ พื้นที่ ที่ติดชายแดน ซึ่งเมื่อก่อนมีผู้คนอพยพข้ามามากและมีคนพื้นเมืองตั้งเดิมอยู่อาศัยมาหลายต่อหลายรุ่น หลายๆที่ ที่ห่างไกลจากตัวเมือง ตามหุบเขาต่างๆ แต่ตอนนี้หลายอย่างก็เริ่มพัฒนารวมแม้กระทั่งการสำรวจผู้คนหลายพื้นที่ ทำให้ผู้คนเหล่านี้ไม่มีหลักฐานการแสดงตนเพราะไม่ได้เข้าถึงการยืนยันตัวคน เป็นบางกรณี เพราะเมื่อก่อนขามีชีวิตที่เรียบง่าย และใช้ชีวิตตามวิถีของเขาเมื่อมีเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจ อาจมีการมอบเอกสารประจำตัว 13 หลักขึ้นต้นด้วย 0 หรื G ซึ่งทำให้พวกเขายังสามารถมีตัวตนในระบบอยู่ได้บ้าง แต่มัน ก็ยังขาด สิทธิ์หลายๆอย่างในชีวิตของเขาที่ควรจะได้รับเท่าเทียมกับคนอื่น จริงๆหนูก็เป็นคนที่มีเอกสารประจำตัวขึ้นต้นด้วย 0 เหมือนกันนะคะ เวลาไปต่างจังหวัดก็ต้องขอใบเดินทางออกนอกจังหวัดก่อนถ้าอยากทำงานก็ อาจจะหายากอยู่เพราะเรามีเอกสารไม่เหมือนกับคนอื่น เวลาอยู่ในวัยเรียนจะไปต่อมหาวิทยาลัย บางคณะก็อาจไม่สามารถเข้าเรียนต่อได้เพราะจำกัดให้แค่คนไทย บางทีอาจโดนดูถูกบ้าง และยังมีข้อจำกัดในการใช้สิทธิ์ต่างๆ แต่ตอนนี้ก็เริ่มน้อยลงจากการที่มีในองค์กรผลักดันในการแก้ไขสิทธิ์เรื่องสิทธิ์ของคนไร้สัญชาติ หรือคนหัว 0 เหมือนโครงการดีๆที่หนู เลือกมาที่นี่เป็นโครงการที่มีความร่วมมือของ ADRA และ มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชียแปซิฟิก ที่มอบทุการศึกษาให้กับเด็กที่ไร้สัญชาติ หรือคนหัว 0 หรือG ที่ขาดโอกาสในหลายๆคนให้ได้มาศึกษาต่อระดับอุคมศึกษาในคณะที่ชอบ จริงๆหนูเกือบตัดสินใจจะไม่เรียนเพราะยังมีน้องๆอีกสองคนที่ยังเรียนอยู่เหมือนกัน กลัวว่าจะไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอในการเรียนพร้อมๆกันหลายๆคน แต่เมื่อได้เห็นประชาสัมพันธ์ทุนเรียนฟรี เลยตัดสินใจมาค่ะ เพราะปกติไม่ค่อยมีทุนที่เล็งเห็นถึงเด็กที่ไร้สัญชาติ พอได้มาเรียนที่นี้จริงๆ มหาลัยนี้อบอุ่นมากๆเลยค่ะ อาจารย์ รุ่นพี่และเพื่อนๆดูแลเป็นอย่างดีเป็นกันเองมากๆ ไม่ไห้รู้สึกต่ำด้อยหรือแตกต่างจากคนอื่นๆ ทำให้เรารู้สึกเป็นคนที่เท่าเทียม ไม่เคยเจอสายตาที่ดูถูกกันด้วยค่ะ แล้วในคาบเรียนอาจารย์ก็สอนเข้าใจค่ะ แต่ไม่ค่อยแปลออกเพราะเป็นโปรแกรมภาษาอังกฤษทั้งหมด อาจจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ แต่อาจารย์ทุกคนมีวิธีการสอนที่ทำให้เข้าใจง่าย และสอนสนุกไม่น่าเบื่อ กระตุ้นให้เราได้ฟังพูดออกเสียงอย่างเต็มที่ค่ะ คิดว่า เวลาจบไปแล้ว คงจะได้ทำตามความฝันอย่างที่เคยคิดไว้ คือการได้สอนเด็กๆภายในชุมชนที่ไร้โอกาส หรือไม่ก็อยากจะเดินทางไปที่ต่างๆ ไปต่างประเทศเพื่อช่วยเหลือเด็กๆที่คอยโอกาสเหมือนเราตอนแรกๆค่ะ
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/