ประจวบคีรีขันธ์-ปิดโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจ
ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
ปิดโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง คืนคนสู่สังคม รุ่นที่3
วันที่ 19 ต.ค.63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีปิดการฝึกโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง รุ่นที่3 และมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ต้องขัง ณ ที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการฝึกโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง รุ่นที่3 ให้แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปี 2563 จำนวน 105 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องขังชาวไทย 98 คน ผู้ต้องราชทัณฑ์ชาวต่างชาติ 7คน ระหว่าง วันที่ 5 ตุลาคม2563 ถึง 18 ตุลาคม 2563 เป็นการประยุกต์การใช้พื้นที่ขนาดเล็ก ให้สามารถดำเนินการปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ปลูกต้นไม้ ปลูกผัก เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา ให้พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น ซึ่งมุ่งเน้นให้ปรับเปลี่ยนทัศนคติ แนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติแก้ปัญหาได้จริง
โดยการฝึกได้แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นที่1-การอบรมพึ่งตนเองด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นที่2-การแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ ทั้งการออกแบบแนวคิดการบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็กพร้อมประยุกต์ทฤษฏีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคมลงบนกระดาน สร้างต้นแบบพื้นที่จำลองและวางแผนการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์4อย่าง เพื่อพอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น และขั้นที่3-การสรุปผลและการประเมินผล
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้ต้องขังที่ผ่านการฝึกอบรม จำนวน 105 คน ซึ่งได้รับความรู้ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ สามารถนำความรู้ต่างๆ ที่ได้รับ ไปประกอบอาชีพในภูมิลำเนาเดิม สามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้ เมื่อยามพ้นโทษออกสู่ภายนอกอันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ของพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และช่วยกันพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/