ศรีสะเกษ-รถยนต์ชนสนั่น 3 คัน 2 ครูดับสยอง เจ็บ 2 ราย

ภาพ/ข่าว: ข่าว ศิริเกษ หมายสุข
ขอบคุณข้อมูล:ชมรมกู้ชีพหลักเมืองกันทรารมย์

รถยนต์ชนสนั่น 3 คัน 2 ครูดับสยอง เจ็บ 2 ราย

                 เมื่อเวลาประมาณ 08:21น. วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ร.ต.ท.ภคพงษ์ ศรีชนะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คันที่บริเวณถนนสายกันทรารมย์ – ศรีสะเกษ ปากทางเข้าบ้านขามป้อม ต.หนองบัว อ.กันทรารมย์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุหลายราย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยชมรมกู้ชีพหลักเมืองกันทรารมย์ เมื่อไปถึงพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นยาริสสีดำ หมายเลขทะเบียน กท 7614 ศรีสะเกษ ชนอยู่กับรถยนต์ปิคอัพยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 6046 ศรีสะเกษ สภาพรถทั้ง 2 คันพังยับเยิน และใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อเบ๊นซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 2552 ศรีสะเกษ จอดอยู่สภาพด้านหน้ารถเบ๊นซ์พังเสียหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย และนำขึ้นรถกู้ชีพขั้นสูงออกร่วมนำส่งโรงพยาบาลกันทรารมย์อย่างเร่งด่วน และพบว่า มีผู้ติดอยู่ในรถเก๋งยาริส จำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยชมรมกู้ชีพหลักเมืองกันทรารมย์ได้ใช้เครื่องตัดถ่างนำเอาร่างออกมาจากรถเก๋ง และพบว่า เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้ง 2 ราย

                         จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถเก๋งยี่ห้อเบ๊นซ์ที่มี นายบุญรอด ภิรมย์ อายุ 71 ปี ขับมาด้วยความเร็ว ได้พุ่งชนท้ายรถยนต์เก๋งยี่ห้อยาริส ที่มี นางอุไร ตอนศรี อายุ 57 ปี ข้าราชการครู ร.ร.บ้านหนองแก้วสำโรง ต.หนองแก้ว อ.เมืองศรีสะเกษ เป็นคนขับมา และมี นางอภิณห์พร เมืองจันทร์ธนชา อายุ 51 ปี ครู ร.ร.เดียวกัน โดยสารรถเก๋งมาด้วย จากนั้น รถเก๋งยาริสได้เสียหลักพุ่งข้ามเลนไปชนกับรถยนต์ ปิคอัพยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า ซึ่งมี นางวิชชุดา แห้วตะนะ อายุ 40 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์สวนทางมา เกิดการชนกันอย่างจัง ทำให้ นางอุไร และนางอภิณห์พร เสียชีวิตภายในรถเก๋งยาริส และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายคือ นายบุญรอด ภิรมย์ และนางวิชชุดา แห้วตะนะ ซึ่ง ร.ต.ท.ภคพงษ์ ศรีชนะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กันทรารมย์ จะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของการเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/