สุพรรณบุรี-กลุ่มมุ้งแม่บ้านดอนคาเย็บมุ้งส่งขายสร้างรายได้งาม

สุพรรณบุรี-กลุ่มมุ้งแม่บ้านดอนคาเย็บมุ้งส่งขายสร้างรายได้งาม

ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี 

สุพรรณบุรี-กลุ่มมุ้งแม่บ้านดอนคาเย็บมุ้งส่งขายสร้างรายได้งาม

            จากสถานการณ์ภัยแล้งติดต่อกันมายาวนาน และปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำต่างทำให้นักธุรกิจ ผู้ประกอบกิจการต่างประสบปัญหาการขาดทุนสินค้าขายไม่ได้หลายรายต้องปิดกิจการ แต่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดอนคา ซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจ ใช้เวลาว่างจากงานประจำตัดเย็บมุ้งขายกลับไม่ได้รับผลกระทบตรงกันข้ามกลับมียอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
นางบังอร จำปาดี ประธานกลุ่มมุ้งแม่บ้านเกษตรกรดอนคา เปิดเผยว่าเมื่อก่อนครอบครัวของตนรุ่นปู่ย่าตายายซึ่งเป็นชาวลาวเวียงได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานมาทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จะทอผ้าเย็บมุ้งไว้ใช้กันเอง และแจกจ่ายญาติพี่น้องที่อยู่ต่างถิ่นเอาไปใช้กางนอนกันยุง แต่พอญาติต่างถิ่นนำไปใช้และใช้ดีมีเพื่อนบ้านเห็นได้มาขอซื้อต่อญาติที่ได้มุ้งไปใช้กลับมาขอซื้อ หลังจากนั้นจึงเกิดการทอผ้าตัดเย็บเป็นมุ้งขาย และขยายเป็นวงกว้างจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ผ้าที่ทอทำมุ้งมีไม่เพียงพอจึงได้สั่งผ้าจากโรงงานมาใช้แทนผ้าทอ
              กระทั่งมาถึงรุ่นของตนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่รับช่วงจากคุณพ่อคุณแม่ เห็นว่ามุ้งยังเป็นสินค้าที่ตลาดยังมีความต้องการจึงชักชวนเพื่อนๆซึ่งเป็นแม่บ้านมารวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรกรดอนคา หลังจากตั้งกลุ่มแล้วก็ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยแนะนำส่งเสริมและพัฒนาการออกแบบมุ้งและการทำแพ็คเก็จ ให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามได้มาตรฐานทั้งการตัด เย็บ การออกแบบมุ้ง สีมุ้ง รวมทั้งคุณภาพของผ้าทอที่นำมาตัดเย็บมุ้งเป็นผ้าที่มีคุณภาพสั่งทอพิเศษ เหนียว ทน สามารถซักกับเครื่องซักผ้าได้และส่งเข้าประกวดคัดสรรสินค้ามาตรฐานของกรมการพัฒนาชุมชน และมาตรฐานอุตสาหกรรม ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ 4 ดาว และ 5 ดาว
             สำหรับการบริหารจัดการก็จะมีแผนกตัดเย็บ พับแพ็ค เตรียมส่งขาย ส่วนตนจะทำหน้าที่ฝ่ายการตลาด หาลูกค้าซึ่งขณะนี้เรามีลูกเกือบทั่วประเทศ ช่องทางการตลาดมีทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านหน่วยงานของรัฐ การเปิดเวบไซต์ เปิดเพจ ของกลุ่ม ทำให้มีลูกค้าทั้งหน่วยงานของรัฐ เอกชน และองค์กรต่างๆ สั่งออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสายบางครั้งผลิตแทบไม่ทัน ส่วนรายได้ของสมาชิกกลุ่มซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 คนบางคนใช้เวลาว่างจากงานประจำมาเย็บก็จะมีรายได้ตั้งแต่ 8,000– 12,000 บาทส่วนคนที่เย็บมุ้งอย่างเดียวก็จะมีรายได้ตั้งแต่ 12,000-18,000 บาท ส่วนมุ้งของกลุ่มก็จะมีหลากหลายรูปแบบทั้งมุ้งผ้าฝ้าย มุ้งลูกไม้ มุ้งสี มุ้งขาว มุ้งลวดลาย มุ้งสุ่มไก่ มุ้งกระโจม มุ้งประตู มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่มีคุณภาพราคาขายส่งตั้งแต่ 100 – 500 บาทส่วนมุ้งกระโจมราคาเริ่มต้น 550-1,500 บาทซึ่งแล้วแต่ขนาดของมุ้งที่ผ่านมาแม้จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ หรือโรคระบาดธุรกิจต่างๆได้รับผลกระทบส่วนกลุ่มมุ้งของตนกลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดกลับมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก ทางด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธาตรี ใต้ฟ้าพูล ประจำภาควิชาศิลปการละคร หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิขาการจัดการทางวัฒนธรรม (การเรียนการสอนทางไกล/ภาษาไทย)บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าตนพร้อม รศ.ฤทธิรงค์ จิวากานนท์ และ ผศ.ดร.พันธุมดี เกตะวันดี ได้นำเจ้าหน้าที่ นิสิตและอาจารย์ มาศึกษาดูงาน กลุ่มมุ้งแม่บ้านเกษตรกรตอนคา ที่เลือกมาศึกษาดูงานกลุ่มมุ้งของแม่บ้านเกษตรกรดอนคา เนื่องจากเป็นกลุ่มชาวบ้านรวมตัวกันซึ่งไม่ใช่เป็นการเพิ่มรายได้เพียงอย่างเดียว ยังมีมิติของสังคมเรื่องของชุมชนความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันช่วยเหลือกันขณะเดียวกันก็สามารถเลี้ยงตัวเองได้ด้วยจากตอนแรกที่เป็นอาชีพเสริมแต่ตอนนี้กลับมีรายได้เยอะมากทำให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะสาวๆไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านอยู่ในชุมชนดูแลครอบครัวได้
การทำงานของกลุ่มจากเริ่มจากเอาตัวเองเข้าลุยหาตลาดทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวสินค้าที่ดีแล้วเกิดแรงบอกต่อจากแรกๆมีเพียงมุ้งสีขาวอย่างเดียวต่อมาก็มีการพัฒนาสีสันเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของลูกค้าและตลาดจนเกิดแนวคิดที่จะส่งโกอินเตอร์นี่คือวิสัยทัศน์ ช่วงที่โควิด19ระบาดหลายคนประสบปัญหาแต่กลุ่มนี้ไม่มีปัญหา ถ้าเรามองถึงตลาดแนวโน้มในอนาคตเราก็พบว่าเราเริ่มกลับมาสู่การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมากขึ้นมุ้งก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่คนเริ่มมองหาที่จะเข้าสู่ธรรมชาติแล้วก็ใช้ชีวิตปรับตัวให้เรียบง่ายมากยิ่งขึ้นอันนี้ก็น่าจะทำให้ธุรกิจของกลุ่มไปได้อีกไกลเลยทีเดียวยังไงก็มองว่ามุ้งไม่น่าจะตาย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!