กาญจนบุรี-สาธารณสุขพร้อมนำนโยบายให้องค์กร ดูแล ห่วงใย ใส่ใจป้องกันเอดส์ในที่ทำงาน

กาญจนบุรี-สาธารณสุขพร้อมนำนโยบายให้องค์กร ดูแล ห่วงใย ใส่ใจป้องกันเอดส์ในที่ทำงาน

ภาพ/ข่าว:มานพ บุตรเนียม

 สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนำนโยบายให้องค์กร ดูแล ห่วงใย ใส่ใจป้องกันเอดส์ในที่ทำงานให้กว้างไกลยิ่งขึ้น(มีคลิป)

        วันนี้(25มีนาคม2562) จากกรณีที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศนโยบายและแผนดำเนินงานเอดส์ในสถานที่ทำงาน พร้อมขับเคลื่อนกิจกรรมดูแล ห่วงใย ใส่ใจป้องกันเอดส์ในที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้องค์กรภาครัฐเป็นตัวอย่างที่ดีในการเคารพสิทธิมนุษยชนของคนทำงาน ดูแลส่งเสริมให้คนในองค์กรปลอดภัยจากเอดส์ ห่วงใย เอื้ออาทรซึ่งกันและกันในองค์กร ชุมชน และสังคม รวมทั้งเพื่อขยายเครือข่ายการดำเนินงานตามแนวปฏิบัติแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานที่ทำงานให้กว้างขวาง ครอบคลุมยิ่งขึ้น
         นพ.พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ได้มีประกาศแนวปฏิบัติแห่งชาติ ว่าด้วยการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานที่ทำงาน เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค มีนโยบายให้องค์กร ดูแล ห่วงใย ใส่ใจป้องกันเอดส์ในที่ทำงาน เนื่องจากเอดส์เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อบุคคล องค์กร ชุมชน และสังคม โดยเฉพาะวัยทำงานเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีสูง และอาจมีความเข้าใจในเรื่องเอดส์ไม่ถูกต้อง ทำให้ไม่ยอมรับการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี องค์กรจึงสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถ ส่งผลให้ความเข้มแข็งขององค์กรลดลง ดังนั้น เพื่อส่งเสริมแนวปฏิบัติแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานที่ทำงาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี โดยกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ จึงได้กำหนดนโยบายและแผนการดำเนินงานเอดส์ในสถานที่ทำงาน ดังนี้
๑. นโยบายด้านเอดส์ในสถานที่ทำงาน
๑.๑ ไม่ใช้สถานะติดเชื้อเอชไอวี และเพศภาวะเป็นเงื่อนไขในการคัดเลือกและรับบุคลากรเข้าทำงาน
๑.๒ ส่งเสริมการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และเข้าถึงบริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีแบบสมัครใจ
๑.๓ ไม่เลือกปฏิบัติหรือตั้งข้อรังเกียจผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ หรือผู้ได้รับผลกระทบ หรือ ทำให้บุคคลดังกล่าวไม่สามารถทำงานต่อไปได้
๑.๔ รักษาความลับส่วนบุคคลของบุคลากรในองค์กร
๑.๕ ให้ความร่วมมือในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อเอชไอวี และการป้องกันการแพร่ กระจายของเชื้อเอชไอวี ตลอดจนดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ได้อย่าง เต็มความสามารถ
๑.๖ ให้บุคลากรที่ติดเชื้อเอชไอวีได้ทำงาน และมีความก้าวหน้าในการทำงานได้ตามปกติ และ ไม่ใช้ผลการติดเชื้อเอชไอวีเป็นเหตุผลในการเลิกจ้างหรือให้ออก
๑.๗ ช่วยเหลือดูแลบุคลากรที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ และครอบครัวให้ได้รับสวัสดิการ อย่างเท่าเทียมกับบุคคลอื่น และให้เข้าถึงบริการดูแลรักษาเอดส์อย่างต่อเนื่อง
๒. แผนการดำเนินงาน
๒.๑ อบรมหรือจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับเอดส์ กฎหมายและแนวทางปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันและการบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานที่ทำงาน
๒.๒ ส่งเสริมให้บุคลากรเข้าถึงบริการให้คำปรึกษาก่อนและหลังการตรวจเลือด และ รับบริการตรวจเลือดตามความสมัครใจ ในสถานบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน
๒.๓ จัดบริการรับเรื่องร้องทุกข์และให้คำปรึกษาแนะนำ กรณีบุคลากรในองค์กรประสบปัญหาสุขภาพ
๒.๔ จัดระบบการรักษาความลับส่วนบุคคลของบุคลากร โดยการเปิดเผยจะต้องได้รับ ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น
๒.๕ จัดทำแนวทางการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ได้รับผลกระทบ ที่ไม่สามารถทำงานได้ต่อไปตามความเหมาะสม
๒.๖ ให้การช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิของผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ซึ่งถูกเลิกจ้างโดยไม่ เป็นธรรมเนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวี
อนึ่งการกำหนดนโยบายและแผนการดำเนินงานด้านเอดส์ในสถานที่ทำงานดังกล่าว เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ พ.ศ. ๒๕๕๒ ทุกประการ และให้คณะทำงานเป็นผู้กำกับดูแลให้การปฏิบัติตามแนวปฏิบัติตามนโยบายฯ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด.


CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!