นครปฐม-ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ภาพ/ข่าว:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม
นครปฐม ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สถิติการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และตาย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ของจังหวัดนครปฐมลดลง แต่ยังตั้งเป้าดำเนินการเข้มข้นกับผู้ที่ขับรถเร็ว เมา และไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสีย ในการประชุมสรุปผลการดำเนินงานและปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 จังหวัดนครปฐม วันนี้ (5 ม.ค.64) โดยมี นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธาน ได้รับทราบผลการดำเนินงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564 เกิดอุบัติเหตุ 58 ครั้ง บาดเจ็บ 56 ราย เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งจำนวนครั้งของความสูญเสียทั้ง 3 ด้าน น้อยกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และการตัดหน้ากระชั้นชิด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ รถปิคอัพ และรถเก๋ง ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เวลา 16.00 – 20.00 น
นายอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครปฐม ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดนครปฐมลดลงในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์พบว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นมาจาก 3 ปัจจัย คือ การขับรถเร็ว เมาแล้วขับ และการไม่สวมหมวกนิรภัย ถนนที่เกิดเหตุสูงสุดคือถนนในหมู่บ้านและตำบล ซึ่งได้สั่งการให้แต่ละอำเภอพูดคุย สร้างการรับรู้ในการมีส่วนร่วมของชุมชน ทำความเข้าใจกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ดำเนินการให้ด่านชุมชนมีความเข้มแข็ง เพราะเป็นด่านสำคัญที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่มากที่สุด โดยต้องบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันและยับยั้งอุบัติเหตุในพื้นที่ของตนเอง นอกจากนี้ ให้ผู้นำในระดับตำบล หมู่บ้าน เก็บข้อมูลของผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งการขับรถเร็ว เมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย เพื่อจะนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุ รวมถึงหาแนวทางในการแก้ไข เป้าหมายคือไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกันจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจัง และช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลงได้ โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/