กาญจนบุรี-ได้จัดภาคีเครือข่ายภาคประชาชน

กาญจนบุรี-ได้จัดภาคีเครือข่ายภาคประชาชน

ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์

             ได้จัดภาคีเครือข่ายภาคประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีแถลงการณ์กรณีมีผู้กล่าวหาว่าจังหวัดกาญจนบุรีเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีและข้าราชการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

              วันที่ 6 มกราคม 2564 เวลา 14.00 น. ที่ โรงงานกระดาษกาญจนบุรี ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ภาคีเครือข่ายประชาชนชาวกาญจนบุรี ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกาญจนบุรี หอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกาญจนบุรี สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดกาญจนบุรี สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดกาญจนบุรี สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี ชมรมอนุรักษ์ธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอศรีสวัสดิ์ กลุ่มเครือข่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี ชมรมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี
โดย นายบุญชู วิวัฒนาทร ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนในการแถลงการณ์ กรณีมีผู้กล่าวหาว่าจังหวัดกาญจนบุรีเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร
               โดยมีข้อความดังนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนในทุกระดับ รวมถึงจังหวัดกาญจนบุรีบ้านเราซึ่งได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย การระบาดในรอบแรกที่ผ่านมานั้นทุกภาคส่วนใช้ความพยายาม และทรัพยากรทั้งหมดที่มี เพื่อลดการระบาดของโรค และบรรเทาปัญหาผลกระทบที่เกิดกับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามรถ รวมทั้งพลิกเศรษฐกิจใน ทุกๆทางให้กลับมาฟื้นคืนยืนได้อีกครั้ง จังหวัดกาญจนบุรีได้รวมพลังที่เข้มแข็งจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการนำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงาน องค์กรภาคเอกชน และพี่น้องประชาชาทุกคนในทุกพื้นที่ ร่วมกันทำงานด้วยความรัก สามัคคี ทุ่มเท อดทน จนทำให้กาญจนบุรีบ้านเราผ่านพ้นเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด ครั้งแรกมาได้ และยังคงดำรงมาตรการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทยเกิดความเชื่อมั่นเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอันดับต้นๆของประเทศส่งผลช่วยให้เศรษฐกิจทุกภาคส่วนฟื้นคืนมาได้อย่างรวดเร็ว
              จนกระทั่งมีการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVD-19) ขึ้นมาอีกครั้ง ทุกฝ่ายเริ่มเดินหน้าหาทางป้องกันและแก้ไขทันที มีการประกาศใช้มาตรการค่อยๆไล่ระดับความเข้มขัน เพื่อรักษาความสมดุลทั้งการป้องกันการระบาดของโรคกับการประคับประคองเศรษฐกิจเพื่อปากท้องของพี่น้องประชาชนให้สามารถไปด้วยกันได้ จนกระทั่งเราได้พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งติดเชื้อมาจกจังหวัดอื่น และเดินทางเข้ามาในจังหวัดเรา แผนกระบวนการของ ศบค.จังหวัด ถูกนำมาใช้สอบสวนโรคและควบคุมการระบาดอย่างทันท่วงที มีการขอความร่วมมือทุกฝ่ายในการยกระดับมาตรฐานการป้องกันโรค และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่เต็มลังความสมารถ เพื่อหาทางยับยั้งป้องกันโรค  อีกด้านหนึ่งจังหวัดของเราก็ถูกโจมตีและตกเป็นจำเลย ในฐานะจังหวัดชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราการระบาดโรคสูงมาก เพราะการระบาดใหม่ครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากการติดเชื้อของกลุ่มพี่น้องแรงงานชาวเมียนมาที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้มีการค้นหาต้นตอของกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง และมีการกล่าวโทษ ข้าราชการ หน่วยงานต่างๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี ว่าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเหล่านั้น พวกเรามั่นใจว่าข้าราชการดีๆ จำนวนมากกำลังเสียสละทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ห่างไกลลูกเมียและครอบครัวอันเป็นที่รัก ในการดำเนินการค้นหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ เพื่อทำการรักษาไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง สกัดกั้นการเดินทางของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในทุกทิศทุกทาง โดยเฉพาะช่องทางผ่านชายแดนที่มีระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร

นอกจากข้าราชการที่ทำงานอย่างหนักแล้ว พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน ต่างก็มีความตระหนักอย่างมากในการช่วยกันเป็นหูเป็นตาป้องกันมิให้บุคคลกลุ่มเสี่ยงข้ามาในพื้นที่ ทุกคนต้องการขวัญกำลังใจ และเรากำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสที่เปรียบเสมือนข้าศึกที่คนทั้งโลกพ่ายแพ้มาแล้ว วินาทีนี้เราต้องการความรัก ความสามัคคี เอกภาพ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากที่สุด พวกเราขอเรียกร้องให้ยุติการทำลายขวัญกำลังใจข้าราชการที่กำลังทุ่มเททำงานเป็นด่านหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคโควิด รวมถึงการบั่นทอนเอกภาพความรัก ความสามัคคี ให้ยุติลงโดยเร็วก่อนจะส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อประสิทธิภาพการทำงานเพื่อยับยั้งโรค นอกจากนี้ยังได้แถลงการณ์กรณีที่มีบุคคลหนึ่งได้กล่าวหาว่าจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ทุกฝ่ายทราบดังต่อไปนี้
1. จังหวัดกาญจนบุรีไม่ใช่จังหวัดที่เป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาครตามที่มีผู้กล่าวหา โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เผยเส้นทางของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่ระบาดในจังหวัดสมุทรสาครว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่พบในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และจากการตรวจสอบยังพบว่าแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ ส่วนใหญ่เดินทางมาจากชายแดนด้านตะวันตกของภาคเหนือ ทางผู้กล่าวหาควรศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ๆ ที่จะมากล่าวหาคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งการกล่าวหานี้ส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อจังหวัดกาญจนบุรี และพวกเราขอเรียกร้องให้บุคคลดังกล่าวกล่าวขอโทษต่อชาวจังหวัดกาญจนบุรี
2. พวกเรารู้สึกเสียใจข้อกล่าวหาอันไม่เป็นธรรมที่มีต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีและเหล่าข้าราชการ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ และให้บุคคลดังกล่าวยุติการใช้คำพูดหยาบคายดูหมิ่น รวมทั้งกิริยาที่ไม่สุภาพต่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีเคารพนับถือ
3. การกล่าวหาชาวจังหวัดกาญจนบุรีเป็นต้นตอของการลักลอบขนแรงงานเถื่อน หรือการขายชาติเป็นคำพูดของผู้ที่ไม่สมควรเป็นบุคคลสาธารณะ การกระทำของบุคคลดังกล่าวเป็นการกระทำของคนที่ไม่มีความรอบรู้ต่อบริบทของจังหวัดกาญจนบุรี สร้างความปั่นป่วน แตกแยก และทำลายความเชื่อมั่นของระบบราชการ พวกเราขอประณามการกระทำในครั้งนี้
4.ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี ตระหนักถึงสถานการณ์ร้ายแรงที่จังหวัดและประเทศของเรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ มีความหนักแน่น ไม่อ่อนไหวไปตามข่าวสารที่ยังไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง และงดเผยแพร่ส่งต่อ หรือแสดงความคิดเห็นจนเกิดการบั่นทอนกำลังใจและบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานและขอเป็นกำลังใจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีในการทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป
5.ขอสนับสนุนกระบวนการสืบสวนความผิดให้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ กรณีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่และกลุ่มบุคคล เรื่องการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวอันเป็นภัยของชาติตามขั้นตอนของกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สุดท้ายนี้ขอให้พี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีรี มีกำลังกาย กำลังใจ จับมือสู้ภัยโควิดไปด้วยกัน และขอให้ผู้ที่สร้างความปั่นป่วน คิดร้ายต่อจังหวัดกาญจนบุรีจงแพ้ภัยตัวเอง และขอให้ผู้ที่สร้างสรรค์ความดีให้เกิดขึ้นในแผ่นดินกาญจนบุรีจงมีแต่ความสุขสวัสดีตลอดไป”

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!