ราชบุรี – อาวุธชนิดใหม่ตร.ยุคโควิด-19 ต้องมีติดตัวคู่กายตลอดเวลา
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย
อาวุธชนิดใหม่ตร.ยุคโควิด-19 ต้องมีติดตัวคู่กายตลอดเวลา
วันที่ 11 ม.ค.64 ขึ้นชื่อว่า “ตำรวจ” ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ตรวจตรา รักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยจะต้องพกอาวุธไว้ข้างกาย อย่างเช่น อาวุธปืน แต่ในยุคการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประชาชนต้องแปลกใจเมื่อเห็นที่เอวของ คุณตำรวจ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จากที่เคยพกแต่ปืน แต่ตอนนี้กลับมีอาวุธคู่กายชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก คือ ขวดเจลแอลกอฮอล์แบบพกพา โดย พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อาชีพตำรวจ ถือเป็นอีกอาชีพที่เป็นด่านหน้าพบปะผู้คนมากมาย มีความเสี่ยงอย่างมาก ในการติดเชื้อระดับต้นๆ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเล็งเห็นถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกระดับชั้น จึงได้จัดทำซองพกขวดเจลแอลกอฮอล์ขนาดพกพาเหน็บไว้ที่เอวคู่กับซองปืนพกให้ตำรวจทุกนายพกติดตัว เสมือนเป็นอาวุธอีกชนิดหนึ่ง เพราะเมื่อถึงเวลาปฏิบัติงานหรือภารกิจต่างๆ อาจต้องมีการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้กระทำความผิด ซึ่งจะสะดวกมากขึ้น หากมีเจลแอลกอฮอล์ไว้ค่อยทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วและทันที สามารถที่จะชักขวดเจลแอลกอฮอล์มาฉีดได้สะดวกสบาย
ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้พกขวดเจลแอลกอฮอล์ต่างรู้สึกสึกดีใจและขอบคุณ ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นถึงความสำคัญ และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ซึ่งก่อนหน้าที่ยังไม่มีซองพกขวดเจลแลกฮอล์ ตนจะพกขวดเจลแอลกอฮอล์ลำบาก ด้วยชุดที่ทะมัดทะแมงถ้าเราจะห้อยหรือใส่กระเป๋ามันจะไม่คล่องตัวในการทำงาน แต่พอมีซองพกมา ตนสามารถหยิบเจลแอลกอฮอล์มาล้างมือได้สะดวกตลอดเวลา นอกจากนี้ ตำรวจทุกนาย ยังมีหน้ากากป้องกันใบหน้าแบบใส (Face Shield), หน้ากากสารคัดหลั่งแบบ 2 ชั้น มีสายคล้องคอ และหน้ากากกันแบคทีเรีย 99% ใช้เป็นอาวุธป้องกันโควิด-19 อีกด้วย “ตำรวจยุคโควิด-19 สิ่งสำคัญคือเรื่องปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งความปลอดภัยตรงอื่นเราสามารถเห็นและรู้ตัวได้ แต่ความปลอดภัยในการป้องกันเชื้อโควิด-19 เราไม่สามารถมองเห็นมันด้วยตาป่าว จึงมีความจำเป็นที่ตำรวจต้องมีอาวุธชนิดใหม่ คือ ขวดเจลแอลกอฮอล์ไว้ติดตัวข้างกายเสมอ” พล.ต.ต.ปรัชญา ผบก.ภ.จว.ราชบุรี กล่าว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/