ปทุมธานี-โควิดพ่นพิษนักธุรกิจร้านเพชรสู่ร้านส้มตำอีสานแต่ชีวิตสู้ไม่คิดท้อถอย
ภาพ/ข่าว:อนันต์ วิจิตรประชา
โควิดพ่นพิษนักธุรกิจร้านเพชรสู่ร้านส้มตำอีสาน แต่ชีวิตสู้ไม่คิดท้อถอยเพื่อผ่านพ้นวิกฤต
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 มกราคม 2564 ที่ร้านอีสานบ้านเหรียญ หมู่บ้านเหรียญเนเชอรัลโฮม ถนนเลียบคลองแอน 1-2 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี น.ส.นวลจันทร์ คำใบ อายุ 44 ปี อดีตนักธุรกิจผู้รับเหมาก่อสร้าง นักธุรกิจค้ายาพารา และเจ้าของร้านกฤษเพชรจิวเวลรี่ ถูกพิษโควิดทำธุรกิจเจ้งตั้งแต่โควิดรอบแรกแทบเอาชีวิตไม่รอด ทนต่อสู้ประคองครัวครัวมา เจอโควิดรอบใหม่เกือบทรุด แต่ไม่เคยท้อถอยหาอาชีพใหม่เปิดบ้านเป็นร้านส้มตำและขายอาหารอีสานขายดีเกินคาด แม้โควิดระลอกใหม่ก็ไม่กระทบยอดขาย เตรียมส่งออเดอร์ขึ้นห้างสรรพสินค้า
น.ส.นวลจันทร์ คำใบ ร้านอีสานบ้านเหรียญ กล่าวว่า เดิมได้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำอยู่ได้ประมาณ 10 กว่าปี มีบางช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว งานก่อสร้างลดน้อยประกอบกับราคาวัสดุบางอย่างมีการปรับตัวสูงขึ้น เช่นเหล็ก เลยต้องหยุดกิจการไป ทำให้ลูกน้องเกือบ 100 คนพลอยไม่มีงานทำไปด้วย จึงพลิกผันชีวิตมาทำสวนยางพาราที่บ้านเกิดจังหวัดหนองคาย และรับซื้อยางแผ่นไปด้วยช่วงแรก ๆ ก็ดูจะไปได้ดี แต่ราคายางลดลงอย่างต่อเนื่องจากราคายางแผ่น 100 บาท เหลือ 20 บาท จึงต้องเลิกและหัน เปิดร้านขายเพชรจิวเวลรี่ เนื่องจากมีพรรคพวกให้คำแนะนำ ชื่อร้านกฤษเพชรจิวเวลรี่ ทำอยู่ได้ 5 ปี จนกระทั่งได้รับผลกระทบการการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ร้านมีลูกน้องกว่า 30 ชีวิต ซึ่งของเรามีทั้งโรงงานผลิตเพชรจิวเวอร์รี่มีหน้าร้าน เมื่อโควิดมาทุกอย่างต้องหยุดทั้งหมดเลย โรงงานไม่มีไลน์ผลิตเนื่องจากไม่มีออเดอร์ ลูกน้องต้องกลับบ้านและมีบางส่วนที่ยังอยู่กับเรา จึงได้หันมาเปิดเป็นร้านส้มตำที่บ้านเพื่อความอยู่รอดของลูกน้องและครอบครัวของเขาด้วย จากรายได้ที่เคยรับวันละล้านเหลือเพียงวันละร้อย แต่ก็สู้ไม่ถอย ประกอบกับภายในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่มีลูกค้ากว่า 400 ครัวเรือน ลูกค้าก็ติดชอบในรสชาดิ ที่เลือกมาเปิดร้านส้มตำเนื่องจากเป็นอาหารที่กินได้ตลอดเวลาและราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังได้ขายอาหารตามสั่ง อาหารอีสาน สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ส่งถึงบ้าน จากนั้นจึงได้เปิดโรงงานผักดองโบราณ ตำไทย ตำลาว ยำมะม่วง แพ็คใส่บรรจุภัณฑ์ส่งห้างสรรพสินค้าติดโลโก “เจ๊นวลจันทร์” โดยจะเริ่มทยอยว่างผลิตภัณฑ์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ประกอบด้วย ตำไทย ตำลาว ตำโคราช ยำมะม่วง ยำลาวมะม่วง เป็นต้น
จากที่เคยนั่งห้องแอร์นั่งสั่งคนงานผลิตเพชรจิวเจอร์รี่ ต้องมานั่งตำส้มตำเอง ถือว่าทรหดฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้ จากร้านเพชรสู่ร้านส้มตำ คนมองเราก็จะมีสองมุงมอง โดยมุมมองหนึ่งก็เห็นว่าเราแปลวิกฤตเป็นโอกาสเราสู้ชีวิต อีกมุมมองหนึ่งก็ดูถูกเรา มองว่าเราเจ๊ง เราเข้าในนะเราเองก็ยอมรับสถานภาพ เราไม่อายทำกิน เราถือว่าเราต้องดิ้นรน ถ้าไม่ดิ้นเราก็ตาม เรามัวแต่หน้าบางเราก็ตาย เราจะต้องหน้าหนาและไม่ดูถูกเงิน จากที่เราเก็บเงินล้าน เรามาเก็บเงินบาทเราก็ทำได้ ใครว่าอย่างไรเขาไม่ได้มาช่วยเหลืออะไรเรา เราต้องสู้กับตัวเราเองเราถึงต้องรอดกับวิกฤตนี้
วิกฤตในช่วงนี้ทุกคนเจอหมดเจอกันทั่วโลก ขนาดเราเองได้ประกอบอาชีพเปิดร้านขายเพชรแล้วก็สามารถมาเปิดร้านส้มตำได้ เพราะฉะนั้นหากใครที่ยังท้ออยู่ ให้สู้ชีวิตเหมือนตนเอง จากร้านเพชรสู่ร้านส้มยำตนเองยังทำได้ กำลังใจเท่านั้นให้เรารู้จักสู้ ถามว่าทุกคนไม่มีใครไม่ทุกข์หรอก ทุกคนต้องเคยคิดฆ่าตัวตายหากเจอวิกฤตแบบนี้ แต่เราต้องไม่ตาย เราต้องกลับมาย้อนดู หากเราคิดฆ่าตายเราจะไม่ตายคนเดียว ครอบครัวญาติพี่น้องเราก็แย่ด้วย แต่ถ้าเราอยู่สู้ ทุกคนก็จะสู้ร่วมกันกับเราหมด เราก็จะชนะและผ่านพ้นวิกฤตตรงนี้ไปได้ ซึ่งหนึ่งที่จะฝากไปยังรัฐบาลในขณะนี้ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการมากกว่าที่เป็นอยู่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีระบบ มองว่าหลายๆคนดูอยู่ว่าจะเริ่มทำอะไรหรือลงทุนอะไรในช่วงที่เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ เพราะทุกคนต้องกินต้องใช้มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราอยู่ ทั้งนี้หากใครที่สนใจสินค้าสั่งในเพจ “อีสานบ้านเหรียญ ผักดองโบราณ เจ๊นวลจันทร์” หรือโทร. 081-666-4441 รับออเดอร์ทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-20.00 น. สามารถสั่งรับประทานเองหรือรับไปขายเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/