สตูล-รวบ นักค้าใบกระท่อม พร้อม แรงงานชาวมาเล ขณะเรือเกยตื้น
ภาพ/ข่าว:ชิดชนก
ผู้ใญ่บ้าน ม.1 ตันหยงโป รวบ นักค้าใบกระท่อม พร้อม แรงงานชาวมาเล ขณะเรือเกยตื้น กลางทะเล
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 ก.พ.64 ที่บริเวณกลางทะเล ในพื้นที่ ม.1 ต. ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล นายนฤนนท์ ฮะยีบิลัง ผู้ใหญ่บ้าน ได้ทำการออกลาดตระเวณ บริเวณพื้นที่ ม. 1 ต.ตันหยงโป เพื่อดูความเรียบร้อย และได้สังเกตไปในท้องทะเล เห็นมีเรือจอดผิดปกติ เนื่องจากสภาพน้ำกลางทะเลแห้ง จึงได้ ออกไปดู และพบว่า เรือที่เกยตื้นนั้น เป็นเรือไม่ใช่เรือในท้องที่ จึงได้แจ้งไปยัง นายพันธรัฐ จิช่อง ปลัดอำเภอ เมืองสตูล เพื่อรายงานว่าพบเห็นเรือผิดปกติเข้ามาในพื้นที่ เพื่อขอกำลังเข้าตรวจค้น และได้ประสานไปยัง ทหาร ตม. ในพื้นที่ เพื่อร่วมกันตรวจค้น จึงพบว่าในเรือมี 3 คน เป็นคนไทย 1 คน ชื่อนายสุวนิต อาหมาด อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 458 ม. 3 ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตุล พร้อมใบกระท่อม จำนวนหนึ่ง ซึ่ง นายสุวนิต อ้างว่า เก็บไว้เพื่อเสพ ส่วนอีก 2 คน นั้นเป็นคนมาเลเซีย ที่นั่งมาในเรือด้วย แต่ ทั้ง 3 คน ได้ให้การว่า ไม่รู้จักกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ไม่เชื่อว่าคนทั้ง 3 จะไม่รู้จักกัน แต่มานั่งเรือลำเดียวกัน ส่วนใบกระท่อมนั้น เจ้าหน้าที่คาดว่า คงจะเหลือจาก การส่งขายแล้ว และกำลังจะเดินทางกลับ แต่เนื่องจาก น้ำลง และไม่รู้ร่องน้ำ จึงทำให้เรือเกยตื้นและถูกเจ้าหน้าที่จับกุม
น.ส.พรรณี เพชรบุรี ปลัดอำภอ เมืองสตูล รักษาการนายอำเภอเมือง สตูล กล่าวว่า ตนเองได้รับรายงานว่า ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ได้ จับกุม คนไทย 1 คน และ คนมาเล 2 คน ขณะที่เรือเกยตื้นในพื้นที่ ม. 1 ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล จึงได้ ประสานเจ้าหน้าที่ เข้าทำการ จับกุม ทั้ง 3 คน โดยในขั้นแรกนั้น จะต้องนำมาตรวจคัดกรองโดยผ่านกระบวนการ คัดแยก เชื้อโควิด-19 และทำการกักตัว 14 วัน โดยในขณะกักตัวนั้น จะต้องทำการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุของ เรือที่มาเกยตื้นเสียก่อนว่า เกิดจากสาเหตุอะไร เพราะเรือที่มาเกยตื้นนั้น ไม่ใช่เรือในท้องที่ และไม่มีทะเบียนเรือ พร้อมทั้งยังได้ ตรวจค้นพบใบกระท่อม ที่เป็นมัด ซึ่งคาดว่าน่าจะเหลือจากการ นำไปขายมาแล้ว ส่วนคนมาเล อีก 2 คน ก็จะถูกดำเนินคดี ข้อหา หลบหนีเข้าเมือง โดยผิดกฎหมาย ซึ่งพื้นที่ บริเวณตันหยงโปนั้น เป็นพื้นที่เสี่ยง และเป็นพื้นที่ ที่กว้าง ที่ กระบวนการลักลอบเข้าเมือง สามารถเข้ามาได้ตลอดแนวชายแดน ดังนั้น หลังจากนี้ จะมีการ วางมาตรการเข้ม โดยร่วมกับ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง ในการ เฝ้าระวัง พื้นที่ ตะเข็บชายแดนให้ มากกว่าเดิม และได้ประสาน ให้มวลชน ในพื้นที่เฝ้าสังเกต บุคคล ที่จะผ่านเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ อีกทางหนึ่ง
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/