ประจวบขีรีขันธ์-สร้างฝายชะลอน้ำเฉลิมพระเกียรติ สืบสาร รักษา ต่อยอด ปลูกป่า
ภาพ/ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
สร้างฝายชะลอน้ำเฉลิมพระเกียรติ สืบสาร รักษา ต่อยอด ปลูกป่า
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 นายทรงพร ยองใย รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก ธ.ก.ส. พร้อมด้วย นายสามารถ เยมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานธ.ก.ส.จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ นายวรวิทยวังตระกูล ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาเกาะยายฉิม และพนักงานในสังกัด ร่วมจัดทำและส่งมอบฝ่ายชะลอน้ำโดยมีนายทัษณะ ศรีตะนัยปลัดอำเภอบางสะพาน นายศักดาเอกพัฒน์สิรินายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทองนายมงคล สุขประเสริฐ กำนันตำบลร่อนทองอำเภอบางสะพาน สารวัตรกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยครูนักเรียนและประชาชนในพื้นที่ร่วมรับมอบ นายทรงพร ยองใยรองผู้จัดการฝ่ายกิจการภาคตะวันตก ธกส.กล่าวว่า ภายใต้โครงการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด ปลูกป่าเฉลิมพระ เกียรดิ สร้างฝ่ายชะลอน้ำ”
เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริ “ปลูกป้า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง” มาใช้เป็นหลักในการดำเนินงาน และบูรณาการรวมกับโครงการต่าง ๆ ของ ธนาคาร เช่น โครงการธนาคารต้นไม้ และโครงการชุมชนอุดมสุข ก่อให้เกิดการสนับสนุนดูแลรักษาป้ไม้ อนุรักษ์ดินและน้ำให้อุตมสมรณ์ สร้างรายไดให้กับเกษตรกร และประชาชนใน ชุมชน สร้างการมีส่วนร่วม และผลประโชน์แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเลี้ยของธนาคารตามหลักการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Value :CSV) อย่างยั่งยืน สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสาขาในสังกัดได้ร่วมกับชุมชนจัดทำฝ่ายชะลอน้ำ ธนาคารต้นไม้ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 ปัจจุบันได้สร้างฝ่ายไปแล้วฝ่ายงบประมาณ บาท ในปีนี้มีแผนในการจัดทำฝ่าย 4 ฝ่าย งบประมาณ 1 ลำนบาท อยู่ในพื้นที่ สาขาเกาะยายฉิม 2 ฝ่าย พื้นที่สาขาอ่วน้อย 2 ฝ่าย สำหรับฝ่ายนี้ ตั้งอยู่บ้านคลองเพลิน ม.9 ต.ร่อนทองอ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สร้างด้วยความร่วมมือของชาวบ้านคลองเพลิน งบประมาณค่าวัสดุ อุปกรณ์ และค่จ้างในส่วนที่ทำเองไม่ได้ รวม 250,000 บาท เมื่อมีฝ่ายนี้แล้วคาดว่าจะมีชาวบ้นได้ประโยชน์ประมาณ 390 ครัวเรือนพื้นที่สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน และพื้นที่การเกษตรอื่นได้ประโยชน์ประมาณ 1,200 ไร นายทรงพร ข่าว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
