อุดรธานี-ทลายซ่อง คาราโอเกะค้ามนุษย์ ช่วยเด็กสาว4 ชีวิต ถูกล่อลวงค้าประเวณี
ภาพ/ข่าว:พฤตินัย มั่งสวัสดิ์
ผู้กำกับการสืบสวนอุดรธานี บุกลุยจับ “เจ๊นา” สาวสอง เจ้าของร้านคาราโอเกะ เปิดบังหน้า ในร้านล่อลวงหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี เผยค่าตัว 2 พัน ค่านายหน้า 300 บาท
ทำทีมาเป็นเด็กเสริฟ บริการลูกค้า เป็นคู่ร้องเพลง หากต้องการหาลำไพ่พิเศษ ไปหลับนอนกับลูกค้า ต้องจ่ายค่านายหน้าเสียเวลา คนละ 300 บาท แล้วให้ลูกค้าไปจ่ายค่าโรงแรมและค่าตัวเพิ่มอีกคนละ 2 พันบาท เผย หลังตำรวจล่อจับ “เจ๊นา”และสามี เข่าทรุด เจอข้อหาหนัก “ค้ามนุษย์” ครวญ อ้างโควิด ลูกค้าน้อย ถ้าไม่ทำก็ไม่มีรายได้
ชุดสืบสวนเฉพาะกิจจังหวัดอุดรธานี บุกทลายซ่องคาราโอเกะกลางเมืองอุดรธานี ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.15 น.วันที่ 17 ก.พ.64 โดย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี กวดขันปราบปรามจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการค้าประเวณีในสถานบันเทิง ที่แฝงบังหน้า ต่อมา พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ทำการสืบทราบมาว่า มีการลักลอบค้าประเวณีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ในร้านคาราโอเกะ ในชุมชนตำบลโนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี และตรงกับข้อมูลการร้องเรียนของผู้ปกครอง ที่ร้องเรียนว่า บุตรหลานซึ่งเป็นหญิงสาวไปทำงานเป็นเด็กเสริฟตามร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ในเขตชุมชนตำบลโนนสูง ในตอนกลางคืน อาจจะถูกล่อลวงให้ค้าประเวณี จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ทราบ เพื่อวางแผนเข้าสืบสวนจับกุม และพร้อมด้วย พ.ต.ท.เฉลิมชาติ เจนกลาง รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ท.สรพงษ์ งิมสันเทียะ รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ท.สุชัย นันแก้ว สว.ฯ ,พ.ต.ต.สุวัฒชัย ศรีวิชา สว.ฯ, ร.ต.อ.สมพร เงาสมรูป รอง สว.ฯ, ร.ต.อ.เสริมพล เพียรชัยสงค์ รอง สว.ฯ, ร.ต.ต.ยุทธนา บุญรักษา รอง สว.ฯ,และชุดสืบสวนเฉพาะกิจ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วมลงพื้นที่วางแผนจับกุม
ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบมาว่า ที่ร้านคาราโอเกะ “ มาลีน คาราโอเกะ ” เลขที่ 143/1 ถ.มิตรภาพอุดรธานี-ขอนแก่น ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นร้านคาราโอเกะชั้นเดียว ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ มีป้ายไฟชื่อร้านตั้งอยู่หน้าร้านและมีหญิงสาวมายืนคอยโบกมือเรียกลูกค้าชายหนุ่ม แก่ เข้าร้านที่จัดโต๊ะนั่งบริการดื่มกิน ร้องเพลง มีหญิงสาวหน้าตาดี มาคอยบริการ 4 คน ชุดสืบสวนได้ให้สายลับอายุราว 50 ปี และเพื่อนปลอมเป็นเสี่ย เข้าไปใช้บริการ หลังดื่มกินสักพักก็มี นางรัตน์ ฯ เป็นสาวเชียร์แขก ลูกน้องของ เจ๊นา เจ้าของร้านมาเสนอว่า หากสนใจชอบน้องๆสาวๆ ออกไปข้างนอกด้วย ต้องจ่ายค่าเสียเวลาคนละ 300 บาท สายลับจึงตอบตกลง จ่ายเงินไป 1 พันบาทเป็นฉบับละ 500 บาท 2 ฉบับ นางรัตน์รับเงินไปแล้วเอาไปจ่ายให้กับนายสวรรค์ ฯ เจ้าของร้าน(สามีของ เจ๊นา) และทอนเงินมาให้สายลับ 400 บาท สายลับก็ พาหญิงสาว 2 คนออกจากร้านไปที่ รีสอร์ต ชื่อดัง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นที่ลูกค้ามักจะใช้เป็นที่หลับนอนกับหญิงสาวที่พาออกจากร้าน มาลีนคาราโอเกะ
พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ให้ดำเนินการกวดขันจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ อย่างจริงจัง ในพื้นที่ จนกระทั่งสืบทราบว่า ร้านมาลีน คาราโอเกะแห่งนี้ เข้าข่ายการค้ามนุษย์ จนเข้าสืบสวนจับกุม โดย หลังจากที่สายลับพาหญิงสาวไปที่ห้องพักในรีสอร์ตและตกลงค่าบริการหลับนอนด้วยเป็นเงินคนละ 2 พันบาท สายลับจ่ายเงินไป 4 พันบาท สำหรับหญิงสาว 2 คน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักซุ่มอยู่จะบุกเข้าไปตรวจค้นแสดงตัวจับกุมทันทีทราบชื่อหญิงสาวทั้งสองว่า น.ส.แนน และ น.ส.กิ๊ฟ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้งสองคน ยอมรับว่า ตกลงมาร่วมหลับนอนกับแขกโดยคิดราคาครั้งละ 2 พันบาท จึงคุมตัวไปสอบสวน
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว น.ส.กิ๊ฟ และ น.ส.แนน หญิงสาว ที่ค้าประเวณีนั้น ได้ยอมรับสารภาพว่า ยังมีเพื่อนหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีก 2 คนอยู่ในร้าน ที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน คือหากไม่ออกไปหลับนอนกับลูกค้าก็จะไม่มีรายได้ โดยเจ้าของร้านคาราโอเกะ ใช้สถานที่เป็นเหยื่อล่อให้ชายหนุ่ม ชายแก่ เข้ามาใช้บริการเพื่อเลือกตัวหญิงสาวบริการออกไปหลับนอน ทางร้านจะได้ค่านายหน้า คนละ 300 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้พา น.ส.กิ๊ฟ และ น.ส.แนน ไปที่ร้านคาราโอเกะเพื่อช่วยเหลือเพื่อนหญิงสาวอีก 2 คน ไปสอบสวนและส่งมอบให้ทาง สำนักงาน พม.จ.อุดรธานี ดำเนินการสอบสวนช่วยเหลือตามขั้นตอน
ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวต่ออีกว่า จากนั้นได้เข้าไปทำการตรวจค้นร้าน มาลีน คาราโอเกะอีกรอบเพื่อจับกุมเจ้าของร้านและพบตัว น.ส.วิรัตน์ มะทะวงศ์ พนักงานเชียร์แขกของร้าน ที่รับเงินจำนวน 1 พันบาทจากสายลับ ที่ทำการลงบันทึกประจำวันหมายเลขในธนบัตรไว้แล้ว โดยได้นำสำเนาธนบัตร มาแสดงด้วย โดย น.ส.วิรัตน์ ฯ ได้พาไปพบนายสวรรค์ เพ็ชแพง อายุ 57 ปี เจ้าของร้านที่รับเงินไว้และยินยอมนำเงินธนบัตรดังกล่าวออกมาให้ดูพบว่าหมายเลขตรงกัน และยอมรับว่าเป็นเงินค่า พาหญิงสาวเด็กเสริฟ ออกไปหลับนอนนอกร้านจริง โดยมี เจ๊นา สาวสอง หรือนายกนกพล แสนเมืองชิน อายุ 45 ปี ภรรยาของนายสวรรค์ มารับทราบด้วยและยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันรับเงินค่าเสียเวลา หรือนายหน้าจากลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าพาหญิงสาวไปหลับนอนในรีสอร์ต ใกล้ร้านคาราโอเกะ
จากนั้นจึงคุมตัวนายกนกพล หรือเจ๊นา แสนเมืองชิน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.8 ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี และนายสวรรค์ เพ็ชแพง อายุ 57 ปี(สามี เจ๊นา เจ้าของร้าน) อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.12 ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ไปสอบสวน
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ 1.แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก (บุคคลผู้มีอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี )โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี ฯ 2.เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี ฯ 3.เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ฯ 4.เป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการ การค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี ฯ 5.เป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการ การค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี หรือผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณี ในสถานการค้าประเวณี ฯ 6.เป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น ฯ 7.เป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ฯ 8.เป็นนายจ้างที่มีการจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้าง ฯ 9.เป็นนายจ้างให้ลูกจ้าง ซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในระหว่างเวลา 22.00-06.00 น.โดยไม่ได้รับอนุญาต ฯ 10.เป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ฯ
พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร กล่าวในตอนท้ายอีกว่า สำหรับนางวิรัตน์ มะหะวงศ์ พนักงานต้อนรับ หรือเชียร์แขก ลูกน้องของเจ๊นา เจ้าของร้านคาราโอเกะ ได้คุมตัวไว้เป็นพยาน หากพนักงานสอบสวนพบข้อเท็จจริงว่า มีส่วนรู้เห็นและเต็มใจช่วยเหลือเจ้าของร้านค้าประเวณีก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มทันที ส่วนของหญิงสาว อายุ ต่ำหว่า 18 ปี ทั้ง 4 คนได้ส่งมอบให้ พมจ.อุดรธานี ดำเนินการตามขั้นตอน และจะดำเนินการสืบสวนจับกุม ขบวนการค้ามนุษย์ในรูปแบบนี้ อย่างต่อเนื่องตามคำสั่งและนโยบายของ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 อย่างเข้มงวดและเด็ดขาดต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/