เพชรบุรี-กะหร่างกร่างบุกรุกป่าบางกลอยบน-ใจแผ่นดินเพิ่มเป็นวงกว้าง
ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร
กะหร่างกร่างบุกรุกป่าบางกลอยบน-ใจแผ่นดินเพิ่มเป็นวงกว้าง ขณะที่หัวหน้าคณะทำงานแก้ไขปัญหาบางกลอยบน-ใจแผ่นดินบินดูด้วยตาพบการบุกรุกชัดเจน ขณะคนเมืองเพชรเตรียมเข้าพบผู้ว่า สั่งการเด็ดขาด เพราะถือเป็นกองกำลังที่บุกรุกแผ่นดินไทย หากเป็นคนไทยต้องรู้กฎหมาย ทำแบบนี้ไม่ได้
ความคืบหน้ากรณี ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภาคี #SAVEบางกลอย และชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ไปเรียกร้องที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 15 ก.พ.64 และ17 ก.พ.64 ได้มีการร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงในแนวทางแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน ตามมา
ล่าสุด 19 ก.พ.64 คณะทำงานแก้ไขปัญหาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามคำสั่งของนายวราวุธ ศิลปะอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริง กรณีความเดือดร้อนของชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่อช.แก่งกระจาน และเดินทางเข้าไปในพื้นที่ หมู่บ้านโป่งลึก – บางกลอย ตั้งแต่เมื่อวาน กระทั่งล่าสุด 20 ก.พ.64 มีรายงานว่า นักบินได้พานายจงคล้าย วรพงศธร ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะทำงานบินสำรวจพื้นที่ที่กำลังถูกบุกรุก และพบว่า กำลังมีการบุกรุกโค่นไม้เผาป่าเพื่อเปิดพื้นที่เพิ่มเติมนับร้อยไร่ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปป้องกันรักษาป่าหลายหน่วย กำลังงุนงงกับท่าทีของรัฐบาลและบันทึกข้อตกลงฉบับดังกล่าวซึ่งมีแกนนำพีมูฟ โทรรายงานต่อนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า เจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ จนไม่กล้าทำอะไรกับกลุ่มบุกรุกเหล่านี้แล้ว
ล่าสุด น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพชรบุรีและภาคีเครือข่ายกำลังจะเดินทางไปพบนายภัครพงษ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.เพชรบุรี ในฐานะผอ.กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี ให้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง ทหาร ตชด.และฝ่ายปกครอง ร่วมกับจทน.กรมอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้ สนธิกำลังเข้าดำเนินการกับกองกำลังดังกล่าวที่กำลังเข้ายึดครองผืนป่าต้นน้ำอย่างเร่งด่วน เพราะไม่เชื่อว่ากลุ่มนี้เป็นคนไทย เพราะถ้าเป็นคนไทยต้องรู้กฏหมายไทย และหากล่าช้า ผืนป่าแห่งนี้ซึ่งเป็นป่าของโลก จะถูกทำลายจนวิบัติเสียหายอย่างใหญ่หลวงแน่นอน
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/