อยุธยา-พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญวันมาฆบูชาประจำปี 2564 ที่วัดใหญ่ชัยมงคล
ภาพ/ข่าว: นราเอก ตันศิริ,นพดล บำเพ็ญสัตย์
พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมทำบุญวันมาฆบูชาประจำปี 2564 ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ตามมาตราการแบบ New normal ขณะที่ทางวัดตั้งจุดคัดกรองถึง 2 ชั้น
เมื่อเวลา 08:00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พุทธศาสนิกชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมทำบุญวันมาฆบูชา ประจำปี 2564 โดยมีประชาชน เดินทางไปร่วมประกอบพิธีทางศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2564 ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งพบบรรยากาศ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนพาบุตรหลานเดินทางมาทำบุญตักบาตร และสักการะกราบไหว้ขอพรพระ ในวันพระใหญ่ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีการทำบุญในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันนี้ คือ เป็นวันที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันที่เวฬุวันวิหารในกรุงราชคฤห์ โดยมิได้นัดหมาย ซึ่งพระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็น “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” คือเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น พระภิกษุสงฆ์ทุกองค์ที่ได้มาประชุมในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นผุ้ได้บรรลุพระอรหันต์แล้วทุก ๆองค์ และเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงกำลังเสวยมาฆฤกษ
พระครูสิริชัยมงคล รองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันมาฆบูชา ประจำปี 2564 นี้วัดใหญ่ชัยมงคล ได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้รองรับประชาชนที่จะเดินทางมาทำบุญ ด้วยวิถีแบบ New Normal โดยมีการเคร่งครัดมาตรการเว้นระยะห่าง เน้นย้ำให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากผ้า และ หน้ากากอนามัย รวมถึง รักษาความสะอาดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณะสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)อย่างเคร่งครัด โดยได้ตั้งจุดคัดกรอง ถึง 2 ชั้น ซึ่งทางวัดใหญ่ชัยมงคล ก็ได้เปิดโอกาสให้ พุทธศาสนิกชนได้ร่วมเวียนเทียน รอบอุโบสถ และพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ในช่วงเช้า จนถึงเวลา 19.30 น.เท่านั้น เนื่องจากทางวัดใหญ่ชัยมงคล จะทำการปิดวัดเพื่อดำเนินการตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกระทรวงสาธารณะสุข และจะดำนินการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเป็นการเฉพาะกิจของคณะสงฆ์เท่านั้น
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/