สิงห์บุรี-ลงพื้นที่เยี่ยมผืนป่าแหล่งอุดมสมบูรณ์กว่า50ไร่ที่บ้านหัวงิ้ว
ภาพ/ข่าว:จิระแมน ขำฉ่า
รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯลงพื้นที่เยี่ยมผืนป่าแหล่งอุดมสมบูรณ์กว่า50ไร่ที่บ้านหัวงิ้ว
วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 เวลา 16.00 น. ณ ป่าชุมชนบ้านหัวงิ้ว หมู่ที่ 4 ต.หัวป่า อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ให้การต้อนรับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้นำเครือข่ายป่าชุมชนและสมาชิกในหมู่บ้านหัวงิ้ว ต.หัวป่า มาให้การต้อนรับ
ปัจจุบันหน่วยงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของจังหวัดสิงห์บุรี ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ความสำคัญในการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และสร้างสมดุล ระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ การตัดไม้ทำลายป่า สถานการณ์ไฟป่า ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพที่เคยอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงการสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน การจัดตั้งป่าชุมชนเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ รักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมและอำนวยประโยชน์อย่างยั่งยืน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กล่าวความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมป่าชุมชนบ้านหัวงิ้ว ตำบลหัวป่า อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้มาเห็นผู้นำ เครือข่ายป่าชุมชน ที่มีความเข้มแข็ง ได้ช่วยกันดูแลพื้นที่ป่าเป็นจำนวน 50 ไร่
ซึ่งป่าเป็นต้นกำเนิดของชีวิต เกิดน้ำ เกิดอาหาร ดูจากสภาพป่าเป็นป่าปลูกแบบพัฒนาที่มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อได้ว่า ได้รับการดูแลรักษา ปกป้องโดยสมาชิกหมู่บ้านอย่างเข้มแข็งเป็นอย่างดี รัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรเอาไว้ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อลูกหลานของชาวสิงห์บุรี ได้มีอากาศที่ดี มีน้ำและอาหารที่เพียงพอ หลังจากนั้นรัฐมนตรียังปรุงกับข้าวกับแม่ครัวหัวป่าก์ด้วยตนเองและมอบต้นไม้ให้ชุมชนแต่ละที่อีกด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
