ประจวบคีรีขันธ์-วิ่งธงชาติไทยรวมใจสู่ชัยชนะ ส่งไปโตเกียวโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น

ภาพ/ข่าว:ณัฐธภพ พันสาย 

          วิ่งธงชาติไทยรวมใจสู่ชัยชนะ ส่งไปโตเกียวโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น ถึงทับสะแกแล้ว ปลายทางบางสะพานน้อย

            เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 1 เมษายน 2564 ที่ปั้มน้ำมันปตท.ตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเลียบ อ่อนเอียด ปลัดอาวุโสอำเภอทับสะแก นายเชิดชาย สุธรรมารักษ์ สาธารณสุขอำเภอทับสะแก ให้การต้อนรับคณะนักวิ่งธงชาติไทย รวมใจสู่ชัยชนะ (Fun run) เพื่อเป็นการรวมใจคนไทยทั้งชาติ วิ่งส่งธงชาติไทยไปให้กำลังใจนักกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมี ประชาชนชาวทับสะแกร่วมสมัครลงวิ่งในวันนี้อีกขำนวนหลายคน โดยจะเป็นการวิ่งส่งธงชาติไทยต่อๆกันคนละ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นกิจกรรมงานวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ของไทยต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด 4,606 กิโลเมตร ฮีโร่โอลิมปิก ที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยจัดขึ้น เพื่อส่งกำลังใจของชาวไทยผ่านธงชาติ ไปยังนักกีฬาโอลิมปิกที่แข่งขันอยู่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ได้คว้าชัยชนะกลับสู่ประเทศไทย โดยระยะทาง 4606 กิโลเมตร เทียบเท่ากับเส้นทางจากประเทศไทยไปโตเกียวประเทศญี่ปุ่น โดยขบวนวิ่งผลัดธงชาติไทย ออกสตาร์ตวันเเรก จากจุดปล่อยตัวที่หน้าอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กทม.เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

            ซึ่งในวันนี้ได้เริ่มปล่อยตัวจากบริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มุ่งหน้าลงใต้ ผ่านอำเภอทับสะแก อำเภอบางสะพาน สิ้นสุดที่ปั้ม ปตท.อำเภอบางสะพานน้อย รวมระยะทางทั้งสิ้น 101 กิโลเมตร โดยมีประชาชน และ ข้าราชการ ร่วมลงสมัครวิ่งส่งต่อธงไตรรงค์ ตลอดระยะทางคนละ 1 กิโลเมตร และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบฯ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ละพื้นที่ของเขตความรับผิดชอบแต่ละสถานีนำรถติดสัญญาณไฟวับวาบร่วมอำนวยความสะดวกนำทางขบวนนักวิ่ง สำหรับเส้นทางการวิ่งผลัดธงชาติไทยครั้งประวัติศาสตร์นจะมีขึ้นใน 35 จังหวัด เริ่มจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าลงใต้สิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา แล้ววิ่งย้อนกลับขึ้นเหนือจะผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในวันที่ 18-20 เม.ย. 64 ที่จะถึง และสิ้นสุดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ในวันที่ 27 พ.ค.64 จากนั้นจึงจะส่งธงไตรรงค์ผืนนี้ไปให้กำลังใจนักกีฬาโอลิมปิก ทีมชาติไทย ในประเทศญี่ปุ่นได้คว้าชัยกลับมาสู่ประเทศไทย ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเว็บไซต์ www.stadiumth.com และเฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/THStadium/

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/