นราธิวาส-ผู้บัญชาการเรือนจำประธานเขต 9 มอบเงินค่าใช้จ่ายและวัสดุอุปกรณ์ให้เรือนจำ
ภาพ/ข่าว:อมรรัตน์ เข็มขาว
เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ด้าน ผบ.เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ระบุมั่นใจผู้ติดเชื้อไม่มีอาการรุนแรง คาดว่าจนถึงสิ้นเดือนนี้น่าจะสามารถควบคุมโรคได้
วันนี้ (6 เม.ย. 64) ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส นางนิภา งามไตรไร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการเรือนจำประธานเขต 9 ได้เดินทางมาสนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายและวัสดุอุปกรณ์ให้แก่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยมีนายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส และคณะ ร่วมรับมอบเงิน รวมทั้งหน้ากากอนามัย ถุงมือ เครื่องวัดอุณหภูมิสแกนฝ่ามือ เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรด แอลกอฮอร์เจล
นางนิภา งามไตรไร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการเรือนจำประธานเขต 9 กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมและได้จัดหาสิ่งของมามอบให้เพื่อใช้ในการป้องกันและควบคุมโรค โดยเจ้าหน้าที่ก็ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่แต่จะต้องมีมาตรการในการดูแลและป้องกันตนเอง เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไปในวงกว้าง ซึ่งมั่นใจว่าเรือนจำจะได้รับการดูแลจากสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างดี ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก และเป็นกำลังใจให้กับเรือนจำจังหวัดนราธิวาสสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไป ซึ่งหากมีผู้ใดที่ต้องการบริจาคก็ยินดีรับความช่วยเหลือ นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID – 19 ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้รับรายงานล่าสุดมีผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับรายงาน ณ เวลานี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 127 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง โดยมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 24 คน รปภ. 2 คน เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว รวม 26 คน และผู้ต้องขังติดเชื้อ 101 คน สำหรับมาตรการในการดูแลผู้ต้องขังที่ติดเชื้อทุกคนจะอยู่ในโรงพยาบาลสนามของเรือนจำ มั่นใจได้ว่าจะมีการดูแลผู้ต้องขังที่ติดเชื้อได้โดยไม่มีอาการรุนแรง ทางสาธารณสุขจังหวัดได้มาตรวจคัดกรองไปแล้วจำนวน 418 ราย แบ่งเป็นผู้ต้องขัง 399 ราย เจ้าหน้าที่ 16 คน รปภ. 3 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลตรวจ ได้ทำการตรวจกลุ่มเสี่ยงที่อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว ความดัน เบาหวานก่อน
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติม โดยเมื่อเข้าเวรให้ใช้อุปกรณ์ป้องกัน พร้อมทั้งเชิญนายแพทย์สาธารณสุขสมุทรสาครมาให้ความรู้แก่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ ทั้ง 92 คน แต่ถ้ามีอาการรุนแรงทางโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ก็มีความพร้อมที่จะนำรถมารับไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลต่อไป ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อได้เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีว่ามีอาการรุนแรง จึงมั่นใจได้ว่าน่าจะสามารถดูแลร่วมกับสาธารณสุขได้ในระยะ 28 วัน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน คาดว่าจนถึงสิ้นเดือนนี้น่าจะสามารถควบคุมได้ สำหรับโรงพยาบาลสนาม มีการแยกพื้นที่โรงพยาบาลสนามจะแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ สถานพยาบาลเดิมรองรับได้ 200 คน แต่สามารถเพิ่มจำนวนได้ถึง 275 คน ซึ่งพื้นที่มีความเพียงพอ หากเกิน 200 คน ก็จะให้ไปอยู่ที่แดน 6 ที่สามารถรองรับได้ประมาณ 600 – 730 คน ภาพรวมโรงพยาบาลสนามน่าจะรองรับได้กว่า 800 คน ซึ่งจะไม่มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปที่อื่น สำหรับแดนที่ยังไม่ปรากฏผู้ต้องขังติดเชื้อ คือแดน 4 และแดน 7 ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็จะให้เป็นแดนสีเขียว คือไม่ให้มีการเข้าออก ทั้งนี้ ผู้ต้องขังจำนวน 2,334 คน ขณะนี้ยังตรวจไม่ครบ โดยตรวจไปแล้ว จำนวน 631 คน ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ซึ่งผู้ต้องขังที่ไม่ปรากฏอาการมาก บางรายก็ไม่จำเป็นต้องตรวจเพราะมีการแยกแดนชัดเจน ยกเว้นคนที่มีความเสี่ยงก็จะไปตรวจและแยกตัวออกมา
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/