อุบลราชธานี-จับชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้หวงห้าม

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดอุบลราชธานี

        นายจิณณะ สามศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ได้จัดเจ้าหน้าที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในอุทยานแห่งชาติ และ ลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฏหมายว่าด้วย การป่าไม้ ตามแนวชายแดนและพื้นที่อุทยานอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในพื้นที่อ.นาจะหลวย และ อ.บุณฑริก จ.อุบลฯ ปรากฏว่า เหตุการณ์ต่างๆเป็นปกติ
         ต่อมา ในวันเดียวกันนั้น ( 8 เม.ย.64 ) หน่วยพิทักษ์ฯ ที่ ภจ.7 (พลาญเสือตอนบน) ร่วมกับฐานฯสามเหลี่ยมมรกตร่วมกับฐานฯสามเหลี่ยมมรกต ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพตามแนวเขตอุทยานฯ บริเวณท้องที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ สามารถตรวจยึดจับกุมราษฎรชาวกัมพูชา จำนวน 8 คน ได้แก่ ด.ช.ซอน อายุ 10 ปี ด.ช.คา อายุ 13 ปี นายโซน อายุ 16 ปี นายโทน อายุ 18 ปี นายสุย อายุ 45 ปี นายฮม อายุ 51 ปี นายโมด อายุ 19 ปี นางฮม ตุ๊ย อายุ 21 ปี (สงวนนามสกุล ทั้ง 8 คน) พร้อมของกลาง ไม้สำรอง (ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม) จำนวน 1 ท่อน ปริมาตร 3.92 ลบ.ม. และลูกสำรอง 2.3 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่อง ไฟฉายชนิดคาดศีรษะ จำนวน 3 ดวง ขวาน จำนวน 2 เล่ม และกระสอบปุ๋ย สีฟ้า จำนวน 4ใบ โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ลักลอบเข้ามาตัดโค่นต้นสำรอง เพื่อเก็บเอาลูกสำรองไปขาย เท่านั้น
         พร้อมกับแจ้ง ความผิดให้รับทราบ คือ 1. ผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ร่วมกันทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 69 ฐาน “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยดวงตราค่าภาคหลวง หรือตรารัฐบาลขาย ตีประทับ โดยไม่ได้รับอนุญาต” 2. ผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน “ร่วมกันทำไม้หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559) และ 3. ผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (2) ฐาน “ร่วมกันเก็บหานำออกไปหรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้หรือทรัพยากรธรรมชาติอย่างอื่น”
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุข เพื่อคัดกรองโรคไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.น้ำยืน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป